ไทย เป็นเจ้าภาพเปิดประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านพลังงาน หรือ SOME วันแรกหารือ3ประเด็นคือ ขยายกรอบโครงการซื้อขายไฟฟ้าสปป.ลาว-ไทย-มาเลเซีย เพิ่มเป็น 300 เมกะวัตต์ จากเดิมตกลงกันแค่ 100 เมกะวัตต์ การเพิ่มการใช้พลังงานงานอย่างมีประสิทธิภาพเป็น 30% หลังทะลุเป้า 20% ไปแล้ว และการหารือเกี่ยวกับการเชื่อมโยงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนระหว่างประเทศอาเซียนให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยนำผลสรุปสู่การพิจารณาลงนามความร่วมมือในที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานระหว่าง 2-3 ก.ย.2562 ต่อไป
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2562 ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพเปิดประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านพลังงานและการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ครั้งที่ 37 (The 37th SOME ) ขึ้น ซึ่งเป็นการประชุมระดับปลัดกระทรวงพลังงานของประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ระหว่าง 24-28 มิ.ย. 2562 โดยมีนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ของไทยเป็นประธาน การประชุมครั้งนี้เป็นการหารือเพื่อเตรียมข้อมูลสำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานที่จะจัดขึ้นในวันที่ 2-3 ก.ย. 2562 ในไทยต่อไป
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ที่ประชุม SOME จะมีการหารือ 3 ประเด็นหลัก เพื่อสรุปและนำไป พิจารณาการลงนามในที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน (AMEM) ต่อไป ได้แก่ 1.การหารือเกี่ยวกับการขยายกรอบความร่วมมือ “โครงการซื้อขายไฟฟ้า สปป.ลาว-ไทย-มาเลเซีย (LTM on power Integration Project)” จากกรอบเดิมเมื่อปี 2560-2561 ได้ลงนามตกลงซื้อขายกันที่ 100 เมกะวัตต์ จะขยายกรอบเพิ่มเป็น 300 เมกะวัตต์ เนื่องจากประเทศมาเลเซียมีความต้องการไฟฟ้าจาก สปป.ลาวมากขึ้น โดยไทยจะเป็นจุดเชื่อมต่อการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างสองประเทศดังกล่าว โดยการประชุมในครั้งนี้จะหารือเกี่ยวกับราคาค่าไฟฟ้าและระยะเวลาโครงการดังกล่าวด้วย
2. การหารือเกี่ยวกับการเพิ่มการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพของอาเซียนเพิ่มขึ้นให้ถึง 30% ในปี 2573 จากเดิมกำหนดไว้เพียง 20% แต่เนื่องจากอาเซียนได้บรรลุเป้าหมายที่จะใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพแล้วโดยทำได้ระดับ 21.9% ในปี 2559 ดังนั้นต้องดำเนินการให้เข้มข้นมากขึ้น
และ3.การหารือเกี่ยวกับการเชื่อมโยงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนระหว่างประเทศอาเซียนให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยอาเซียนได้ร่วมมือกับทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ(IEA) ศึกษาเกี่ยวกับศักยภาพพลังงานทดแทนในอาเซียน มาตั้งแต่ปี 2561 เพื่อวางแผนเชื่อมโยงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนให้เกิดการใช้อย่างมีประสิทธิภาพและการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกันมากขึ้นในอนาคต โดยการศึกษาดังกล่าวจะมีการรายงานในที่ประชุม SOME และนำไปสู่การพิจารณาข้อตกลงต่างๆ ในที่ประชุม AMEM ต่อไป