เทคโนโลยีที่ชาญฉลาดสู่โรงกลั่นอัจฉริยะของเอสโซ่ (Smart Technologies for a Smart Refinery)

1172
- Advertisment-

เทคโนโลยีที่ชาญฉลาดสู่โรงกลั่นอัจฉริยะของเอสโซ่ (Smart Technologies for a Smart Refinery) กับกรรมการและผู้จัดการโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ “สุชาติ โพธิ์วัฒนะเสถียร”


ในปัจจุบันคลื่นเทคโนโลยีดิจิทัล ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตในทุกวงการ และกลายเป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันอีกด้วย องค์กรธุรกิจจึงต้องมีการวางกลยุทธ์ทั้งเชิงรุกและเชิงรับ และปรับตัวโดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสร้างความแข็งแกร่งให้พนักงาน กระบวนการผลิต เพื่อพาองค์กรเดินหน้าไปสู่เป้าหมาย

สุชาติ โพธิ์วัฒนะเสถียร” กรรมการและผู้จัดการโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ศรีราชา บริษัท  เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

“สุชาติ โพธิ์วัฒนะเสถียร” กรรมการและผู้จัดการโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ศรีราชา บริษัท  เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) วิศวกรด้านปิโตรเลียมและปิโตรเคมี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรงกลั่น ด้วยประสบการณ์การทำงานในหน่วยงานต่างๆ ของเอ็กซอน โมบิล คอร์ปอเรชั่น องค์กรพลังงานชั้นนำระดับโลกทั้งในและต่างประเทศ มากว่า 20 ปี เล่าว่า เอสโซ่ ตระหนักถึงวิถีความเปลี่ยนแปลงและความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลว่าเป็นโอกาสที่จะนำมาพัฒนาองค์กรสู่ความเป็น “โรงกลั่นอัจฉริยะ” ซึ่งมีความปลอดภัยในกระบวนการผลิต เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเป็นเพื่อนที่ชุมชนไว้วางใจ โดยได้นำเทคโนโลยีดิจิทัล มาขับเคลื่อนการบริหารโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่

ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ได้มีการนำโปรแกรมหรือเครื่องมือ Digital (ทั้ง Applications/Tools/ Solutions) รูปแบบต่างๆ มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความแม่นยำในการทำงาน ในส่วนต่างๆ ของโรงกลั่น มีการติดตั้งอุปกรณ์กระจายสัญญาณ (Wireless Hotspot and Access Point) ที่ทำหน้าที่รับและส่งสัญญาณ Wi-Fi ให้ครอบคลุมในพื้นที่ทำงานของกระบวนการกลั่นน้ำมัน สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายและส่งข้อมูลให้จากพื้นที่ Process Areas ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างต่อเนื่องและทันท่วงที

- Advertisment -

ในด้านของ Mobility ได้นำอุปกรณ์ ในระบบ iOS Mobile Devices (iPad, mini iPad and iPhone) ควบคู่กับ Intelatrac Application เข้ามาใช้ในการตรวจตรา ดูแลอุปกรณ์ และหน่วยกลั่นในกระบวนการกลั่นอย่างมีแบบแผน ที่เราเรียกว่า Field Structure Round (FSR) และเมื่อพบสิ่งผิดปกติ ก็สามารถบันทึก และรายงานไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องจากภาคสนามได้ทันที เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์การกลั่นทำงานได้อย่างไม่สะดุด

การวางระบบในโรงกลั่นน้ำมัน มีการติดตั้งโปรแกรม หรือ เครื่องมือ ต่างๆ ที่เข้ามาช่วยให้กระบวนการผลิต และการทำงานภายในโรงกลั่น มีความปลอดภัย แม่นยำ มีกระบวนการตรวจสอบโรงกลั่นอย่างครบวงจร ที่ช่วยในการประเมินผลการทำงาน เพื่อตรวจสอบความแม่นยำระบบการทำงานของอุปกรณ์ในโรงกลั่น ให้มีประสิทธิภาพความปลอดภัยสูงสุด โดยมีการประมวลผล บันทึกและรายงานค่าการทำงานต่างๆ ในเวลาที่เกิดขึ้น แบบ Real Time และสามารถตรวจสอบได้ทางมือถือ (Mobile Devices)

โรงกลั่นเอสโซ่ยังได้นำอุปกรณ์การวัดชนิดไร้สาย  Wireless Equipment Monitoring (WEM) มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และลดการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการผลิต สามารถวางแผนล่วงหน้า เพื่อนำอุปกรณ์มาซ่อมบำรุงก่อนที่จะมีผลกระทบกับการผลิต มีการนำเทคโนโลยีการวางแผนและรายงานผลอัตโนมัติ (Automated Plant Information Reports) มาใช้ในการวิเคราะห์ปัญหาประกอบการตัดสินใจ เพื่อความแม่นยำ ประหยัดเวลา และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของวิศวกร  อีกทั้ง ยังสามารถตรวจสอบการซ่อมบำรุงทางไกล ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในช่วงที่มีการล็อคดาวน์ในสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งระบบสามารถส่งภาพสื่อสารกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจสอบแก้ไขเมื่อเกิดเหตุขัดข้องได้ทันท่วงที

นอกจากนั้น ยังมีการพัฒนาระบบวิเคราะห์แผนกปฏิบัติการกลั่น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลผ่านสมุดบันทึกเฉพาะในองค์กร (Dynamo Operations  Logbook) ช่วยให้พนักงานประจำกะที่เข้ามาตรวจสอบการทำงาน ทั้งแผนกปฏิบัติการกลั่น ตลอดจนพนักงานห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ (Lab) แผนกความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ได้ตรวจสอบสภาพการทำงานทั้งกระบวนการ สามารถส่งมอบงานและข้อมูลให้กับพนักงานในช่วงกะต่อไปได้อย่างครบถ้วนและถูกต้อง

และที่โดดเด่นก็คือ มีการนำเทคโนโลยี โดรน (Drone) มาประยุกต์ใช้ในการบินตรวจสอบอุปกรณ์ในโรงกลั่นจากมุมสูงได้อย่างชัดเจน ช่วยลดความเสี่ยงของพนักงานในการทำงานจากที่สูง และประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งนั่งร้านเพื่อไปตรวจสอบอุปกรณ์  ส่วนนั่งร้านภายในโรงกลั่น นำเทคโนโลยี Digital Scaffold  Application มาช่วยวางแผนและตรวจสอบการตั้งนั่งร้าน ผ่าน Google map

ผู้บริหารโรงกลั่นเอสโซ่ ยังเล่าถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทำงาน โดยผ่านระบบที่เรียกว่า MRMA  (Maintenance Record Mobility Application) เพื่อบันทึกการซ่อมบำรุง ให้มั่นใจว่าเครื่องมือวัดที่เกี่ยวข้องกับปริมาณน้ำมันเพื่อการซื้อขายในแต่ละวันนั้น จะมีความถูกต้องแม่นยำ พร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา และเป็นไปตามแผนการสอบเทียบของแต่ละอุปกรณ์ที่ถูกกำหนดเอาไว้ล่วงหน้า  โดยสามารถใช้งานผ่าน laptop/desktop และอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น iPad ที่หน้างานในโรงกลั่นได้ทันทีทั้งระบบ offline และ online ผู้ปฏิบัติงานจะสามารถตรวจสอบประวัติและผลการสอบเทียบในอดีตได้ รวมถึงสามารถส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ส่วนกลางได้ทันที เพื่อให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องนำเอาข้อมูลไปใช้ประกอบการวางแผนและทำรายงานได้อย่างรวดเร็ว ลดความผิดพลาดจากการเขียนใส่กระดาษ และการโอนถ่ายข้อมูลซ้ำหลายครั้ง

“ด้วยระบบดิจิทัลต่างๆ ที่นำมาใช้ ปัจจุบันฝ่ายปฏิบัติการสามารถประเมินผล วิเคราะห์สถานการณ์และแจ้งไปยังห้องควบคุม (Control room) หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ทันที เพื่อแก้ไขหรือซ่อมบำรุงได้ทันท่วงที และหากมีข้อสงสัยความผิดปกติ สามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้ ทำให้ผู้ปฏิบัติงานรอบต่อไปได้รับทราบข้อมูลครบถ้วนและรวดเร็ว” คุณสุชาติ กล่าว

เทคโนโลยีดิจิทัล ยังช่วยให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในโรงกลั่น ซึ่งให้ความสำคัญเรื่องการนำพลังงานความร้อนหมุนเวียนมาใช้ ในสัดส่วน 2 ใน 3 โดยมีระบบตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อน มีการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ (computer software) ในการคำนวณและประเมินประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ดูแลอุปกรณ์สามารถวางแผนการถอดทำความสะอาดอุปกรณ์ระยะยาวได้ เป็นการบริหารต้นทุนด้านการวางแผน การบำรุงรักษาได้อย่างดี

นอกจากนี้ เอสโซ่ยังได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อช่วยลดการปล่อยมลภาวะสู่ชั้นบรรยากาศ ลดการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม  ตัวอย่างเช่น การกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่จะออกสู่ชั้นบรรยากาศ แล้วเปลี่ยนให้อยู่ในรูปของกำมะถันเหลว เทคโนโลยีช่วยลดการเกิดไนตรัสออกไซด์โดยการควบคุมการเผาไหม้ การลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก ผ่านการบริหารจัดการการใช้พลังงานในโรงกลั่นให้มีการใช้เชื้อเพลิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ

“เราจะก้าวเข้าสู่การเป็นโรงกลั่นแห่งอนาคต รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน การดำเนินงานของเรา จึงต้องไม่ก่อให้เกิดปัญหากับชุมชน ไม่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงมีการบริหารจัดการให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด และองค์กรต้องทำหน้าที่เป็นพลเมืองที่ดีในชุมชน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเราที่จะเติมเต็มพลังชีวิต ด้วยประสบการณ์พลังงานที่เหนือกว่า

จัดได้ว่าเป็นการบริหารจัดการที่ดี ด้วยคุณภาพ ในการนำประโยชน์จากเทคโนโลยีมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต ช่วยลดต้นทุน อีกทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนด้วย 

Advertisment