คณะอนุกรรมการปิโตรเลียม เตรียมเปิดซองประมูลที่ 4 เกี่ยวกับข้อเสนอผลประโยชน์รัฐและสัดส่วนจ้างพนักงานไทย สำหรับแหล่งเอราวัณ บงกช ในสัปดาห์นี้ คาดใช้เวลาพิจารณา 2 สัปดาห์ เสร็จสิ้นเดือน พ.ย. 2561 นี้ พร้อมส่งคณะรัฐมนตรี พิจารณาผู้ชนะประมูลในเดือน ธ.ค.นี้ ตามแผน
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2561 ที่ผ่านมา คณะกรรมการปิโตรเลียม ได้มีการประชุมติดตามความคืบหน้าการเปิดประมูลขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย หมายเลข G1/61 (แหล่งเอราวัณ) และ G2/61(แหล่งบงกช) โดยภายในสัปดาห์นี้ “คณะอนุกรรมการพิจารณาการให้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม” จะเปิดซองเอกสารข้อเสนอประมูล ซองที่ 4 ซึ่งเป็นข้อเสนอด้านผลประโยชน์ตอบแทนรัฐ และสัดส่วนการจ้างพนักงานไทย
โดยคาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาซองประมูลที่ 4 ประมาณ 2 สัปดาห์ หรือเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือน พ.ย. 2561 นี้ จากนั้นจะเสนอคณะกรรมการปิโตรเลียม ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) คัดเลือกผู้ชนะการประมูลภายในเดือน ธ.ค. 2561 นี้ ตามแผนที่กำหนดไว้
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2561 คณะอนุกรรมฯ ได้ดำเนินการเปิดซองเอกสารข้อเสนอซองที่ 1-3 หลังจากเปิดให้ผู้ประกอบการที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น (PQ) ยื่นข้อเสนอด้านเทคนิค(Bidding) เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2561 ซึ่งมีมายื่นคำขอประมูลในฐานะผู้ดำเนินงานหลัก (Operator) ในแปลงเอราวัณ มี 2 ราย ได้แก่
1.บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ร่วมทุนกับ บริษัท MP G2 (Thailand) Limited ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท มูบาดาลา โดย ปตท.สผ.ถือหุ้น 60% และ MP G2 ถือหุ้น 40%
2.บริษัทเชฟรอน ไทยแลนด์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ร่วมทุนกับ บริษัท มิตซุยออยล์ เอ็กซ์โปลเรชั่น คัมปานี ลิมิเต็ด โดยบริษัทเชฟรอนฯ ถือหุ้น 74% และบริษัท มิตซุยออยล์ฯ ถือหุ้น 26%
ส่วนแปลงสำรวจและผลิตปิโตรเลียมบงกชมี 2 ราย ได้แก่ 1. บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ถือหุ้น 100% และ 2.บริษัทเชฟรอน ไทยแลนด์ โฮลดิ้ง จำกัด ร่วมกับ บริษัทมิตซุยออยล์ เอ็กซ์โปลเรชั่น คัมปานี ลิมิเต็ด โดยบริษัทเชฟรอนฯ ถือหุ้น 74% และบริษัท มิตซุยออยล์ฯ ถือหุ้น 26%
