เชฟรอนสานต่อ “โครงการฟื้นฟูลุ่มน้ำป่าสัก ตามรอยพ่อ” ระยะที่ 4

301
- Advertisment-

“โครงการฟื้นฟูลุ่มน้ำป่าสัก ตามรอยพ่อ” เกิดจากความร่วมมือระหว่าง สถาบันเศรษฐกิจพอเพียง มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ และ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด มีขอบเขตการดำเนินงานครอบคลุมพื้นที่ 7 จังหวัดในลุ่มน้ำป่าสัก ได้แก่ สระบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา เลย และพระนครศรีอยุธยา ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 เพื่อขับเคลื่อนองค์ความรู้ศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติ มุ่งเน้นไปที่การสร้างศูนย์เรียนรู้ การพัฒนาคู่มือและตำรา การสร้าง ‘ครูพาทำ’ เพื่อถ่ายทอดความรู้ ตลอดจนการอบรมผู้สนใจเพื่อสร้าง “คนมีใจ” ที่จะนำศาสตร์พระราชาไปลงมือปฏิบัติและเผยแพร่องค์ความรู้นี้ออกไปในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง ยกระดับการพัฒนาชีวิตและชุมชนอย่างยั่งยืน สำหรับโครงการฟื้นฟูลุ่มน้ำป่าสัก ตามรอยพ่อ ระยะที่ 4 จะดำเนินการระหว่างเดือนมกราคม 2564 ถึงเดือนมิถุนายน 2565 ภายใต้งบประมาณ 10,001,500 บาท จากบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด

นายอาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ ได้สนับสนุนโครงการฟื้นฟูลุ่มน้ำป่าสัก ตามรอยพ่อ ระยะที่ 1 จนถึงระยะที่ 3 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลอดเจ็ดปีของการดำเนินโครงการ ได้ก่อให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ในการเผยแพร่ศาสตร์พระราชาด้านการบริหารจัดการทรัพยากรดิน-น้ำ-ป่า ในบริเวณลุ่มน้ำป่าสัก เพื่อหยุดท่วม หยุดแล้ง ลุ่มน้ำป่าสักอย่างยั่งยืน และเป็นต้นแบบในการจัดการน้ำที่ขยายผลไปยังลุ่มน้ำอื่นๆ ทั่วประเทศ โดยในปัจจุบันมีพื้นที่ต้นแบบกว่า 300 แห่ง และจำนวนศูนย์เรียนรู้ 30 แห่ง ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 80,000 คนจากทั่วประเทศ เชฟรอนจึงยินดีสนับสนุนงบประมาณอีกกว่า 10 ล้านบาทสำหรับการดำเนินโครงการในระยะที่ 4 เพื่อสานต่อและขยายผลความสำเร็จของโครงการฯ อย่างยั่งยืน รวมสนับสนุนงบประมาณแล้วทั้งสิ้นเกือบ 46 ล้านบาท” “นอกจากนั้น เชฟรอนยังได้ร่วมกับมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติและภาคีเครือข่ายดำเนินโครงการพลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน อย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 9 ในปีนี้ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการทำเกษตรและดำเนินชีวิตตามแนวทางศาสตร์พระราชาแก่สาธารณชนในวงกว้าง ผ่านกิจกรรมรณรงค์และการผลิตสื่อความรู้ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี มีผู้เข้าร่วมโครงการฯ จากทั่วประเทศกว่า 20,000 คน ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการเผยแพร่ศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติในวงกว้าง อันนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนของคนไทยทุกคนในอนาคต”

Advertisment