เขียนเล่าข่าว EP. 3​ ดูโครงสร้างราคาน้ำมันให้เป็น ก็จะเห็นคำตอบ ใครช่วยอุ้มดีเซล

749
- Advertisment-

ประเด็นราคาน้ำมันแพงถูกหยิบขึ้นมาใช้ในการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมตรี เมื่อวันที่ 17 -​18 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา มีวาทกรรมจากหัวหน้าฝ่ายค้าน เรื่อง “ให้คนจนไปอุ้มคนรวย”

วาทกรรมที่ว่านี้มีข้อเท็จจริงแค่ไหน ใครที่ดูโครงสร้างราคาน้ำมัน จากเว็บไซต์​ของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ. ที่คอยอัพเดทข้อมูลให้ทุกวัน เพื่อใช้ในการอ้างอิง ก็จะเห็นคำตอบ

โดยโครงสร้างราคาน้ำมัน ณ วันที่ 22 ก.พ. 2565 ช่องสำคัญที่ผู้อ่านควรต้องดู คือช่องราคาหน้าโรงกลั่น ที่เขียนว่า EX-REFIN ช่องนี้จะบอกว่าราคาน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์​และดีเซล ที่เป็นเนื้อน้ำมันนั้นอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ ดูตามไปก็จะเห็นตัวเลขกลมๆว่า กลุ่มเบนซินและแก๊ส​โซฮอล์​นั้น เนื้อน้ำมันถูกกว่า ดีเซลประมาณ 1 บาทต่อลิตร ยกตัวอย่างแก๊สโซฮอล์ 95 E10 ราคาอยู่ที่ 22.29 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลB7 นั้นอยู่ที่ 23.37 บาทต่อลิตร

- Advertisment -

ช่องตารางที่ควรต้องดูถัดมาคือ ช่องภาษีสรรพสามิต ที่เขียนว่า Tax ก็จะเห็นว่า แก๊สโซฮอล์ 95 E10 นั้นถูกเก็บภาษีอยู่ที่ 5.85 บาทต่อลิตร แต่ดีเซลB7 เก็บอยู่ที่ 3.20 บาทต่อลิตร ที่ดีเซลเสียภาษีน้อยกว่าเพราะคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2565 นั้นมีมติลดภาษีสรรพสามิตดีเซลเป็นการชั่วคราว 3 บาทต่อลิตรจนถึงเดือน พ.ค. 65


ช่องถัดมาคือ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่เขียนว่า Oil Fund ในส่วนของเบนซิน95 นั้นถูกเก็บมากถึง 7.18 บาทต่อลิตร ส่วนแก๊สโซฮอล์ 95 E10 นั้นถูกเก็บอยู่ที่ 1.02 บาทต่อลิตร แต่สำหรับดีเซลB7 นอกจากจะไม่ต้องจ่ายแล้ว ยังได้รับการชดเชยอยู่ที่ 2.30 บาทต่อลิตร อย่างไรก็ตามก็ยังถือว่าแนวโน้มดีขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ กองทุนน้ำมันเคยแบกภาระชดเชยดีเซลสูงถึงลิตรละ 3.79 บาทต่อลิตร

ช่องตารางต่อไปคือช่องค่าการตลาดของผู้ค้าที่เขียนว่า MARKETING MARGIN จะเห็นว่า แก๊สโซฮอล์ 95 E10 ถูกบวกค่าการตลาดอยู่ที่ 3.65บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลB7 บวกค่าการตลาด 1.50 บาทต่อลิตร

ทั้งหมดที่รวมเข้าไปจึงเป็นคำตอบในช่องสุดท้ายของตารางที่เป็นราคาขายปลีก หรือ RETAIL จะเห็นว่า เบนซิน95 นั้นแพงโดดไปที่ 43.16 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 E10 อยู่ที่ 35.75 บาทต่อลิตร ส่วน ดีเซลB7อยู่ที่ 27.94 บาทต่อลิตร หรือส่วนต่างระหว่างแก๊สโซฮอล์​95กับดีเซล มากถึง 7.81 บาทต่อลิตร ทั้งๆที่ ตอนที่เป็นราคาหน้าหน้าโรงกลั่นนั้น แก๊สโซฮอล์95 ถูกกว่า 1 บาทต่อลิตร จึงเป็นคำตอบว่า กลุ่มผู้ใช้เบนซิน​และแก๊สโซฮอล์​นี่เอง ที่เป็นคนที่จ่ายแพงกว่า เพื่ออุ้มกลุ่มคนใช้ดีเซลไม่ให้ใช้ราคาน้ำมันเกิน 30 บาทต่อลิตร

หัวหน้าฝ่ายค้านนั้นทำการบ้านมาดี ที่ไปดูข้อมูลกลุ่มผู้ใช้เบนซินและแก๊สโซฮอล์ ของกรมการขนส่งทางบก จึงพบว่าถึงแม้ปริมาณการใช้เบนซินและแก๊ส​โซฮอล์​ จะน้อยกว่า ดีเซลเกือบเท่าตัว คือประมาณ 30 ล้านลิตรต่อวัน กับ 63 ล้านลิตรต่อวัน แต่ในแง่ของจำนวนนั้นผู้ใช้เบนซินและแก๊สโซฮอล์ส่วนใหญ่ คือบรรดาผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่โยง​ไป​ว่าเป็นชนชั้นกลางและคนที่มีราย​ได้​น้อยที่มีมากถึง 21 ล้านคัน(รวมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลประมาณ 29 ล้านคัน)​ แต่ผู้ใช้ดีเซลมีรวมๆประมาณ 12 ล้านคัน ดังนั้นหากมองในทางการเมือง การที่ออกมาเป็นปากเป็นเสียงให้กลุ่มผู้ใช้มอเตอร์ไซค์​เรื่องน้ำมันแพง จะได้คะแนนนิยมมากกว่า ก็ต้องรอดูว่า รัฐบาลและกระทรวงพลังงานจะแก้เกมนี้หรือไม่อย่างไร คอลัมน์เขียนเล่าข่าว เพียงแต่ชี้ประเด็น​ให้เห็น

Advertisment