เขียนเล่าข่าว​ EP.27​ ​ถึงเวลาคนใช้ดีเซลต้องทยอยคืนหนี้กองทุนน้ำมัน

202
N1022
- Advertisment-

สัปดาห์ที่ผ่านมา​ผมมีโอกาสกลับไปบ้านที่ต่างจังหวัด​ เลยได้ขับรถกระบะ​สีแดง​พาเพื่อนๆไปท่องเที่ยวละแวกหมู่บ้าน​ จอดแวะเติมน้ำมันดีเซล​ที่ปั๊ม​ PTT​ Station​ ที่ชาวบ้านก็ยังเรียกติดปากว่าปั๊ม ปตท.​

ดีเซล​ตามราคาที่ประกาศวันที่เติมนั้น​ ยังอยู่ที่​ 33.94​ บาทต่อลิตร​ถูกกว่า​ แก๊สโซฮอล์​ 95​ ที่ขายอยู่​หัวจ่ายข้างๆกัน​ ราคา 36.35​ บาทต่อลิตร​ หรือถูกกว่า​ลิตรละ​ 2.41 บาท

ในความรู้สึกของคนใช้ดีเซล​คงคิดขอบคุณรัฐบาล​ และกระทรวงพลังงานที่ช่วยตรึงราคาดีเซลเอาไว้ให้คนได้ใช้ในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนจริง​ เพราะตลอดทั้งปี​ 2565​ ที่ผ่านมา​รัฐใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปชดเชยราคาเอาไว้​ ทั้งดีเซลและ​ก๊าซหุงต้มจนมีฐานะติดลบสูงสุดเป็นประวัติการณ์​กว่า 1.3​ แสนล้านบาท​ ในขณะที่กลุ่มน้ำมันเบนซิน​ แก๊สโซฮอล์​ ที่รถยนต์นั่ง​ และมอเตอร์ไซค์​ เติมกันนั้น​ รัฐปล่อยให้ราคาปรับขึ้นๆลงๆ​ ตามกลไกตลาด​

- Advertisment -

มองแบบคนเข้าใจโครงสร้างราคาดีเซล​ ก็จะรู้ว่า​ การที่รัฐเอากองทุนน้ำมันไปชดเชยราคาดีเซลไว้ให้ในช่วงปีที่ผ่านมา​ ซึ่งเป็นช่วงราคาน้ำมันขาขึ้น​ ที่บางจังหวะกองทุนน้ำมัน​ต้องเข้ามาชดเชย​ดีเซล​ สูงถึงลิตรละ​ 14​ บาทต่อลิตร​ เพื่อไม่ให้ราคาทะลุเพดาน​ 35​ บาทต่อลิตร​ ในขณะที่ช่วงเดียวกันผู้ใช้แก๊สโซฮอล์​ ต้องจ่ายกันเกินลิตรละ​ 40​ บาท​ แต่เมื่อมาถึงจังหวะราคาน้ำมันขาลง​ ผู้ใช้ดีเซล​ ก็ต้องทยอยถูกเก็บเงินคืนกองทุน​ โดยไม่ได้ลดราคาน้ำมันลงตามจริง​ เช่นกัน


โดย​ ณ​ วันที่​ 27​ ก.พ.​ 2566​ คนใช้ดีเซลต้องถูกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน​ ในทุกลิตรที่ใช้​ 5.12 บาท​ ในขณะที่​ แก๊สโซฮอล์​ 95​ ถูกเก็บเข้ากองทุน​ 2​ บาทต่อลิตร​

ยังดีที่ค่าการตลาด​ดีเซลนั้นถูกเก็บ​ 1.44 บาทต่อลิตร​ ในขณะที่​ แก๊สโซฮอล์​ 95​ อยู่ที่​ 2.70 บาทต่อลิตร​

ปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันในตอนนี้​ มีเงินไหลเข้ามากกว่าไหลออก​ ทำให้​ตัวเลขติดลบ​ค่อยๆ​ ลดลง​ จาก​ 1.3​ แสนล้าน​บาทเหลือ​ 1.1​ แสนล้านบาท​ ถ้าสถานการณ์ยังเป็นไปในทิศทางแบบนี้​ เชื่อ​ว่าปีหน้า​ กองทุนน้ำมันคงจะปลดภาระหนี้ได้ทั้งหมด​ และคนที่จะต้องจ่ายคืนหนี้พร้อมดอกเบี้ยเงินกู้เป็นส่วนใหญ่​ ก็คือคนใช้ดีเซล

Advertisment