เขียนต่อเนื่องจาก EP.16 กับทริปที่ร่วมเดินทางไปสหราชอาณาจักร กับคณะผู้บริหาร ปตท.และสื่อมวลชนช่วงวันที่ 22-28 ส.ค.65 ที่ผ่านมา
ไฮไลท์ภาพรวมของทริปนี้ถูกเชื่อมโยงด้วยวิสัยทัศน์ใหม่ “Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังงานแห่งอนาคต” ให้เห็นความเกี่ยวข้องระหว่าง ปตท.และ อินโนบิก กับ ธุรกิจอาหารโปรตีนจากพืช หรือ Plant Based Food ซึ่งจะกลายเป็นอาหารแห่งอนาคต โดยคณะสื่อมวลชนได้มีโอกาสเยี่ยมชมโรงงานของบริษัท Plant & Bean ที่ผลิต ผลิตภัณฑ์ Plant Based และได้ร่วมชิมหลากหลายเมนู ที่ใช้วัตถุดิบ Plant Based จาก เชฟที่มีชื่อเสียงในหมู่คนนิยมกินอาหารประเภทนี้ และเป็นผู้ก่อตั้ง “Wicked Kitchen” ธุรกิจสตาร์ทอัพ ที่ขายผลิตภัณฑ์อาหาร Plant Based หนึ่งในพันธมิตรของอินโนบิก ด้วย
วิสัยทัศน์ส่วนของ “Beyond” หรือธุรกิจที่นอกเหนือไปจากเรื่องพลังงาน ทำให้ ปตท. มีการจัดตั้ง บริษัท ปตท. โกลบอล แมนเนจเม้นท์ จำกัด หรือ PTTGM ที่ ปตท.ถือหุ้น 100 % เข้ามาถือหุ้นในอินโนบิก (เอเซีย) เพื่อมาดำเนินธุรกิจโดยเน้นไปในเรื่อง Life and Science หรือ ชีววิทยาศาสตร์ ที่ชื่อไทยบ้างก็เรียก วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต
บุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และยังเป็นประธานกรรมการ บริษัทอินโนบิก (เอเซีย) กล่าว บรรยายให้ฟังว่า อินโนบิก ซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อธันวาคม 63 นั้นมีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ นับรวมๆวงเงินที่ใช้ไปประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท โดยเน้นไปใน 3 กลุ่มธุรกิจหลักคือ ยา ( Pharmaceutical ), เทคโนโลยีและอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical Technology) และโภชนาการ (nutrition) ซึ่งหมายรวมถึง Plant-Based อาหารแห่งอนาคต ที่กล่าวถึงในต้นเรื่องนี้ด้วย
ขยายความให้เข้าใจง่ายๆในธุรกิจของ อินโนบิก นั้นเป็นธุรกิจที่มุ่งหวังช่วยให้คนไทยและชาวโลกได้กินอิ่ม อร่อย สุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บและมีอายุที่ยืนยาวขึ้น โดยที่ใช้นวัตกรรมและทรัพยากรที่มีอยู่ในประเทศให้มากที่สุด เพื่อลดการนำเข้าและส่งออกนำรายได้กลับเข้าประเทศ ถือเป็นการสร้างความมั่นคงทางอาหารตามนิยามของ FAO
เฉพาะเรื่อง Plant-Based ที่ คุณบุรณิน วาดภาพไว้ว่าจะต้องมีโปรตีนจากพืชที่ได้รสชาติและรสสัมผัสเสมือนเนื้อสัตว์ ที่จะเข้ามาทดแทนเนื้อสัตว์จริง ซึ่งมีแนวโน้มจะผลิตได้ไม่เพียงพอกับความต้องการบริโภคได้ในอนาคต นั้น ทางอินโนบิก ได้เข้าไปร่วมลงทุนกับ ทาง โนฟ ฟู้ดส์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ NRF ถือหุ้นฝั่งละ 50 % ตั้งเป็นบริษัท NRPT เพื่อเข้าไปลงทุนกับ Plant & Bean (UK) กลายเป็น บริษัทแพลนท์ แอนด์ บีน ประเทศไทย (Plant & Bean (Thailand) เพื่อลงทุนตั้งโรงงานผลิต Plant-Based ที่ สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในเดือนกันยายน 2565 กำลังการผลิตเฟสแรก 3,000 ตันต่อปี พร้อมจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 2 ปีหน้า
โดย อินโนบิก ตั้งเป้าให้โรงงานแห่งนี้เป็นผู้นำการผลิตอาหาร Plant-Based ในลักษณะ OEM (Original Equipment Manufacturer)ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าไปสร้างแบรนด์ สร้างมูลค่าเพิ่มในสินค้าได้ด้วยตัวเอง นั้นหมายถึงว่า ทั้งห่วงโซ่ของ สินค้า Plant-Based ตั้งแต่เกษตรกรผู้ปลูกพืชเป็นวัตถุดิบ โรงงานผลิต เจ้าของแบรนด์ที่จะเป็นผู้จัดจำหน่าย จะได้ประโยชน์ร่วมกัน ในขณะที่ผู้บริโภค ก็จะได้อิ่มอร่อยกับการกินอาหารเสมือนเนื้อสัตว์ที่ทำมาจากพืช 100 % ที่ช่วยลดการฆ่าสัตว์ ช่วยลดการปล่อยมีเทน ซึ่งช่วยเรื่องลดปัญหาสภาวะโลกร้อนไปด้วย
เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคเข้าถึงอาหารแพลนท์เบส มากขึ้น Plant & Bean (Thailand) จึงไปจับมือกับ “Wicked Kitchen”ที่ก่อตั้งโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญซึ่งหลงใหลกับการทำเมนูอาหารแพลนท์เบส “Derek Sarno” มาช่วย คิดค้นพัฒนาสูตรอาหาร โดยระหว่างทริป คณะสื่อมวลชน ก็ได้ลองชิมอาหารหลายๆเมนู จากฝีมือการทำของ Derek Sarno แบบใกล้ชิด
โดยบางเมนูที่ ผู้เขียนได้ชิมนั้น รสชาติอร่อยเหมือนได้กินไส้กรอกทำจากเนื้อสัตว์จริงๆ ทั้งๆที่วัตถุดิบที่ใช้ปรุงมาจากเห็ดบางชนิด
บอกข่าวดีสำหรับผู้ที่อยากทดลองชิม เมนูขายดีของ Wicked Kitchen หลากหลายรายการนั้น กำลังเดินทางด้วยเรือขนส่ง ส่งตรงจากอังกฤษ ไปถึงไทย ภายในเดือน ก.ย. นี้ โดยจะมีวางจำหน่ายทั้งที่ ท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต และที่ Alt. Eatery สุขุมวิท 51 ซึ่งเป็นร้านที่ NRPT ร่วมกับทาง “แสนสิริ”เปิดเป็นช่องทางการตลาดเอาไว้ หลังจากที่ช่วงวันที่ 26-28 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางร้านก็มีการจัดกิจกรรม ” Take you to the moon” ที่สร้างกระแสให้เกิดกลุ่มคนรักอาหารPlant basedกันไปแล้ว
Pete Speranza ซีอีโอ ของ Wicked Kitchen บอกกับคณะสื่อมวลชนว่า จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Plant Based ที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชีย จากนั้นจะขยายไปยัง สิงคโปร์-ญี่ปุ่น โดยสินค้าที่จะเปิดตัวในประเทศไทยมีทั้งสิ้น 17 รายการ ส่วนใหญ่อยู่ใน กลุ่มอาหารแช่แข็ง
โดยเขามองว่า เทรนด์ของความต้องการอาหารประเภทนี้ ในยุโรปหรือคนอังกฤษ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่สนใจเรื่องของสิ่งแวดล้อม รองลงมาเป็น กลุ่มรักสุขภาพ แต่อนาคตอาหารPlant Basedจะเป็นเทรนด์ของโลกที่ทุกคนต้องบริโภค
ทิ้งท้าย EP.17 ด้วยมุมมอง จากคุณบุรณิน ถึง เป้าหมายของ อาหาร Plant Based ว่า ไม่ได้อยากให้คนที่ชอบกินเนื้อสัตว์เลิกกินเนื้อสัตว์ แต่ให้เขาลองหันมาเติมเมนูแพลนท์เบสเข้าไปในการกินแต่ละมื้อผสมๆกันไป โดยอร่อยกับรสชาติและรสผิวสัมผัส เสมือนได้กินเนื้อสัตว์จริงๆ ที่จะช่วยทำให้ การขยายตัวของอาหารแพลนท์เบส เติบโตไปได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ “
ใครยังไม่ได้ลองชิม อาหาร Plant Based แนะนำให้ลองดู แล้วมาแชร์ความคิดเห็นกันดูครับ