อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานเยี่ยมชมศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ กรมการพลังงานทหาร แหล่งน้ำมันแห่งแรกของประเทศไทย เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจและเพิ่มพูนประสบการณ์เกี่ยวกับการประกอบกิจการโรงกลั่นน้ำมัน ในขณะที่นโยบายเร่งด่วนรัฐบาลแพทองธาร ที่จะแถลงต่อรัฐสภา วันที่ 12 กันยายน นี้ มีเรื่องของการพัฒนา ระบบสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อความมั่นคงทางยุทธศาสตร์ของประเทศ (Strategic Petroleum Reserve: SPR)
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ( Energy News Center -ENC ) รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 – 6 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ธพ. เข้าศึกษาดูงาน ณ ศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ กรมการพลังงานทหาร ศูนย์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันแห่งแรกของประเทศไทย เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจและเพิ่มพูนประสบการณ์เกี่ยวกับการประกอบกิจการโรงกลั่นน้ำมัน อีกทั้ง ได้เยี่ยมชมโรงงานผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพจากพืชพลังงาน ณ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยได้ให้ข้อแนะนำ ข้อคิดเห็น ตลอดจนแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านพลังงานร่วมกัน ซึ่งเป็นประโยชน์ในการนำมาปรับใช้ในการปฏิบัติราชการของ ธพ. ให้มีประสิทธิภาพต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการแถลงนโยบายของรัฐบาล นางสาว แพทองธาร ชินวัตร ต่อรัฐสภา ในวันที่ 12 กันยายน 2567 นี้ โดยมีนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลชุดนี้จะดำเนินการ 10 เรื่อง โดยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับด้านพลังงาน อยู่ในนโยบายเร่งด่วนข้อที่ 3 ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้ รัฐบาลจะเร่งออกมาตรการเพื่อลดราคาพลังงานและสาธารณูปโภค ปรับโครงสร้างราคาพลังงานควบคู่กับการเร่งรัดจัดทำ ปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น ข้อกำหนดเกี่ยวกับการทำสัญญาซื้อขายพลังงานได้โดยตรง (Direct PPA) รวมทั้งการพัฒนาระบบสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อความมั่นคงทางยุทธศาสตร์ของประเทศ (Strategic Petroleum Reserve: SPR) สำรวจหาแหล่งพลังงานเพิ่มเติม และการเจรจาประเด็นพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลกับกัมพูชา (OCA) เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงาน พร้อมทั้งผลักดันการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ (Mass Transit) และการกำหนดโครงสร้างอัตราค่าโดยสารร่วมในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับนโยบาย “ค่าโดยสารราคาเดียว” ตลอดสาย เพื่อลดภาระค่าเดินทางให้ประชาชน