ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center -ENC) รายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ นางสาวภัทรภร ปุณณนิฏฐา นายกสมาคมโรงไฟฟ้าชีวมวลเพื่อเศรษฐกิจชุมชน พร้อมด้วยสมาชิกสมาคมฯ เข้ายื่นหนังสือถึงนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อให้พิจารณาเรื่องราคาค่าไฟฟ้าที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าชีวมวล ในการดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน โดยชี้ให้เห็นถึงผลดีต่อเศรษฐกิจในระดับชุมชน และรายได้ที่เกษตรกรได้รับโดยตรงจากการขายเชื้อเพลิงชีวมวล รวมทั้งบทบาทของโรงไฟฟ้าชีวมวลในการลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 เนื่องจากมีกระบวนการเผาไหม้ในระบบปิดที่มีประสิทธิภาพสูง
ทั้งนี้ทางสมาคมโรงไฟฟ้าชีวมวลชี้แจงว่า หากรัฐช่วยกำหนดราคาค่าไฟฟ้าให้มีความเหมาะสม จะสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรรวบรวมวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น แกลบ ฟางข้าว ชานอ้อย ใบอ้อย ยอดอ้อย เศษไม้ เหง้ามันสำปะหลัง ทะลายปาล์ม และซังข้าวโพด มาจำหน่าย แทนการถูกเผาทิ้งในที่โล่งแจ้ง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดฝุ่น PM 2.5 โดย นายพีระพันธุ์ รับที่จะนำข้อเสนอแนะดังกล่าวไปพิจารณาเพื่อกำหนดนโยบายและมาตรการที่เหมาะสมต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ปัญหาส่วนหนึ่งของโรงไฟฟ้าชีวมวล เกิดจากความผิดพลาดของนโยบายรับซื้อไฟฟ้าในช่วงที่ผ่านมา ที่ไม่กำหนดโซนนิ่งให้ชัดเจนในการตั้งโรงไฟฟ้าโดยคำนึงถึงปริมาณชีวมวลที่จะส่งป้อนให้โรงไฟฟ้าได้เพียงพอ ทำให้เกิดการแย่งซื้อชีวมวล และทำให้ราคาชีวมวลปรับเพิ่มสูงขึ้นมากจนกระทบต่อต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการ ยกตัวอย่างเช่น กรณีของเชื้อเพลิงแกลบ ทำให้ผู้ประกอบการต้องรวมกลุ่มกันเรียกร้องขอปรับเพิ่มราคาค่าไฟฟ้า ซึ่งในที่สุดผู้ใช้ไฟฟ้าจะต้องเป็นผู้รับภาระ