สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) ประเมินสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบยังทรงตัวระดับต่ำต่อไป ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันดิบล้นตลาดจากผลกระทบ COVID-19 โดยน้ำมันดิบ WTI (20-26 เม.ย.2563) เฉลี่ยอยู่ 3.23 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และดูไบอยู่ที่ 17.60 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ขณะราคาน้ำมันในภูมิภาคเอเชียทั้งเบนซินและดีเซลยังคงปรับตัวลดลงตามทิศทางของราคาน้ำมันดิบ
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เปิดเผยว่า สนพ.ได้ติดตามทิศทางราคาน้ำมันพบว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบจะทรงตัวในระดับต่ำ เนื่องจากตลาดยังกังวลกับปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังความต้องการใช้น้ำมันตลาดโลกชะลอตัวลงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่มีผลกดดันความต้องการใช้น้ำมันในขณะนี้
โดยราคาน้ำมันดิบตลาดโลกช่วงวันที่ 20 -26 เม.ย. 2563 เปลี่ยนแปลงดังนี้
ราคาน้ำมันดิบดูไบ เฉลี่ยอยู่ที่ 17.60 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับลดลงจากสัปดาห์ก่อน 3.18 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 3.23 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน 16.88 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ที่ผ่านมาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังได้รับแรงกดดันจากการเทขายทำกำไรของนักลงทุนก่อนที่สัญญาเดือน พ.ค. จะสิ้นสุดวันที่ 21 เม.ย. 63 และความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงอย่างมากจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ตลาดกังวลว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ จะเต็มในเร็วๆนี้ ซึ่งอาจทำให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบต้องจ่ายเงินเพื่อระบายน้ำมันดิบแทน สำหรับราคาน้ำมันดิบ WTI สัญญาเดือน มิ.ย. 63 ยังคงปิดตลาดเป็นบวก
อย่างไรก็ตามเพื่อสร้างเสถียรภาพราคาน้ำมันและบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทางกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตรหรือกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) ประกาศพร้อมร่วมเดินหน้าลดกำลังการผลิต โดยจะเริ่มขึ้นในเดือน พ.ค. 2563 ตามข้อตกลงในการประชุมฉุกเฉินในช่วง 12 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมา ทั้งยังเตรียมประชุมฉุกเฉินอีกครั้งในช่วงต้นเดือน พ.ค.2563
นายวัฒนพงษ์ กล่าวว่า สำหรับราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดภูมิภาคเอเซียนั้น ด้านราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 95 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 19.30 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน 0.68 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนเบนซินออกเทน 92 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 17.78 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน 1.27 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ทั้งนี้รายงานปริมาณสำรองเบนซินเชิงพาณิชย์ทั่วโลกอยู่ในระดับสูง จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันปรับตัวลดลงจากการล็อคดาวน์ต่อเนื่องในหลายประเทศ
ด้านราคาน้ำมันดีเซลนั้น ราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 27.24 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน 5.72 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
โดยตลาดน้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเชียยังคงซบเซา หลังอินเดียประกาศขยายเวลาล็อคดาวน์จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 14 เม.ย. 2563 ออกไปจนถึงวันที่ 3 พ.ค. 2563
ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันดีเซลถูกกดดันจากนโยบายปิดประเทศในภูมิภาคเอเชีย ประกอบกับปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่ปรับตัวสูงขึ้นในตะวันออกกลาง
สำหรับค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.21 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 32.6315 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ต้นทุนน้ำมันเบนซินลดลง 0.16 บาทต่อลิตร ในขณะที่ต้นทุนน้ำมันดีเซลลดลง 1.22 บาทต่อลิตร ทำให้ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล์ และน้ำมันดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 2.11 บาทต่อลิตร และค่าการกลั่น เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 1.25 บาทต่อลิตร
ด้านฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 26 เม.ย. 2563 กองทุนน้ำมันมีสินทรัพย์รวม 57,341 ล้านบาท หนี้สินกองทุน 21,568 ล้านบาท โดยฐานะกองทุนน้ำมันสุทธิ 35,773 ล้านบาท แยกเป็น บัญชีน้ำมัน 41,674 ล้านบาท และบัญชี LPG -5,901 ล้านบาท
ปัจจัยทั้งหมดดังกล่าวส่งผลให้ ราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง วันที่ 27 เม.ย. 2563 เป็นดังนี้
เบนซินอยู่ที่ 24.36 บาทต่อลิตร
แก๊สโซฮอล์95 อยู่ที่ 16.95 บาทต่อลิตร
แก๊สโซฮอล์91 อยู่ที่ 16.68 บาทต่อลิตร
แก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 15.44 บาทต่อลิตร
แก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 15.04 บาทต่อลิตร
ดีเซล อยู่ที่ 17.89 บาทต่อลิตร
ดีเซล B10 อยู่ที่ 14.89 บาทต่อลิตร
ดีเซล B20 อยู่ที่ 14.64 บาทต่อลิตร
และดีเซลเกรดพรีเมียม อยู่ที่ 21.74 บาทต่อลิตร