คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)ไฟเขียวโครงการวินมอเตอร์ไซค์คนจนซื้อน้ำมันราคาถูก 3 บาทต่อลิตร ดีเดย์ 15 ธ.ค. 2561 ผ่านเกณฑ์สี่หมื่นราย ขณะที่ราคาน้ำมันตลาดโลกเริ่มลดลง จึงไม่ต้องชดเชยราคาดีเซลแล้ว และยังช่วยให้กองทุนน้ำมันฯ มีเงินไหลเข้า 1,000 ล้านบาทต่อเดือน เหลือเงินสุทธิ 23,000 ล้านบาท ยืนยันดูแลราคาก๊าซหุงต้ม (ภาคครัวเรือน) 363 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ได้จนถึงต้นปี 2562 เผยเร็วๆนี้ อาจเห็นการปรับลดราคาหน้าปั๊มเพิ่มอีก
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ได้กำหนดเบื้องต้นให้เริ่มโครงการช่วยเหลือจักรยานต์รับจ้าง (วินมอเตอร์ไซค์) ให้สามารถซื้อน้ำมันแก๊สโซฮอล์ราคาถูกกว่าปกติ 3 บาทต่อลิตร ได้ในวันที่ 15 ธ.ค. 2561 นี้ เนื่องจากได้รับผลการศึกษาจำนวนผู้มีสิทธิ์แท้จริงร่วมกับกระทรวงการคลังเรียบร้อยแล้ว
โดยพบว่ามีผู้ประกอบการมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนกับกรมขนส่งทางบกรวม 1.9 แสนคัน แบ่งเป็นพื้นที่กทม. จำนวน 1 แสนคัน และต่างจังหวัดอีก 9 หมื่นคัน แต่กลุ่มผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการดังกล่าวจะต้องมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและขึ้นทะเบียนกับกรมขนส่งทางบก ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีวินมอเตอร์ไซค์ที่ผ่านเกณฑ์ทั้งสิ้น 4 หมื่นราย แบ่งเป็นวินมอเตร์ไซค์ในพื้นที่ กทม. 8,500 คัน และต่างจังหวัด 31,500 คัน
ทั้งนี้ จะให้ผู้ค้ามาตรา 7 สนับสนุนเงินส่วนลด 3 บาทต่อลิตรดังกล่าว ด้วยความสมัครใจ นอกจากนี้ในส่วนของสถานีบริการน้ำมันยังอยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงการคลัง ในกรณีปัญหาการใช้เครื่องรูดบัตรอัตโนมัติ เนื่องจากแต่ละสถานีบริการน้ำมันมีเครื่องรูดบัตรจากสถาบันการเงินที่แตกต่างกัน ดังนั้นจะต้องพิจารณาเพื่อให้สถานีบริการน้ำมันทุกแห่งสามารถให้บริการน้ำมันกับกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ที่ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้อย่างไม่เกิดปัญหา
อย่างไรก็ตามแม้ปัจจุบันราคาน้ำมันจะเริ่มลดลง แต่รัฐบาลจะยังคงนโยบายดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ผู้มีรายได้น้อยที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ เนื่องจากราคาน้ำมันโลกยังอยู่ในภาวะผันผวน และถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนด้วย
นายศิริ กล่าวด้วยว่า สำหรับราคาน้ำมันตลาดโลกนั้น ปัจจุบันเริ่มปรับลดลง จากมาตรการที่สหรัฐฯผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ดังนั้นกระทรวงพลังงานจึงได้ทยอยเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้กองทุนฯ มีเงินเพียงพอดูแลสถานภาพราคาพลังงานในอนาคตต่อ โดย กบง. มีการเรียกเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลคืนกองทุนฯ 60 สตางค์ต่อลิตรไปแล้วตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. 2561 ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันกระทรวงพลังงานไม่มีการชดเชยราคาดีเซลแล้ว และส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ ปัจจุบันมีเงินเหลือ 23,000 ล้านบาท และมีเงินไหลเข้ากองทุน 1,000 ล้านบาทต่อเดือน แต่เงินส่วนนี้ยังต้องใช้ชดเชยราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ภาคครัวเรือนเป็นวงเงิน 500 ล้านบาทต่อเดือน
อย่างไรก็ตามกองทุนน้ำมันฯยังมีสถานะเป็นบวก และยืนยันว่ามีเงินเพียงพอที่จะดูแลราคา LPG ครัวเรือนให้อยู่ในราคา 363 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ได้ตลอดถึงต้นปี 2562 ภายใต้เงื่อนไขราคา LPG โลกที่ไม่ขึ้นสูงมากไปกว่าปัจจุบัน โดยขณะนี้ราคา LPG โลกอยู่ที่ 535 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน
ทั้งนี้หากระดับราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลดลงหรือไม่เพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบัน ในสัปดาห์นี้กระทรวงพลังงานจะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ที่ผู้ค้าสามารถลดราคาขายปลีกน้ำมันได้ทั้งดีเซลและกลุ่มเบนซินลง ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ค้าน้ำมันได้ปรับลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินในประเทศลดลงตามราคาตลาดโลกไปแล้ว 5 ครั้ง รวมเป็นเงิน 2.10 บาทต่อลิตร
