วันแรกของการเปลี่ยนชื่อน้ำมันดีเซล กรมธุรกิจพลังงาน ส่งเจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลการร้องเรียนจากประชาชน โดยขอความร่วมมือค่ายน้ำมันแจ้งประชาชนให้เข้าใจ พร้อมส่งรถโมบายเคลื่อนที่ร่วมแจ้งทุกปั๊มต้องปฏิบัติตาม ชี้ 95% ของปั๊มแบรนด์เปลี่ยนชื่อจาก ดีเซลB10 เป็น”ดีเซล “แล้ว ส่วนปั๊มอิสระเกือบ 2 หมื่นแห่ง จะต้องเร่งตรวจสอบให้ปฏิบัติตามกฎหมาย
น.ส.ลักขณา สุมาบัติ รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า วันนี้ 1 ต.ค. 2563 เป็นวันแรกที่กรมธุรกิจพลังงาน กำหนดให้ปั๊มน้ำมันทุกแห่งต้องเปลี่ยนชื่อน้ำมันไบโอดีเซลB10 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 10% ในทุกลิตร) เป็นชื่อน้ำมัน “ดีเซล” เพื่อให้เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานของประเทศ แทนน้ำมันไบโอดีเซลB7 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 7% ในทุกลิตร) ที่ปัจจุบันให้เปลี่ยนจากชื่อดีเซลไปเป็น “B7” เพื่อป้องกันการสับสนของประชาชน และกระตุ้นการใช้ดีเซลB10 ให้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเพิ่มการใช้น้ำมันปาล์มในประเทศที่ทำให้ราคามีเสถียรภาพมากขึ้น
โดยได้ประสานผู้ค้าน้ำมัน ทุกแห่ง รวมถึงทางพลังงานจังหวัด ทุกจังหวัด ให้ช่วยตรวจสอบการเปลี่ยนชื่อชนิดน้ำมันดังกล่าว รวมถึงได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ของกรมฯ ลงไปเก็บข้อมูลรวบรวมปัญหาและข้อร้องเรียนจากประชาชน ว่าเกิดปัญหาหรือความสับสนอย่างไรในการเติมน้ำมันดีเซลในชื่อใหม่ คาดว่าจะเก็บข้อมูลได้หมดภายในปลายเดือน ต.ค. 2563 นี้ เพื่อรวบรวมเป็นรายงานเสนอผู้บริหารกระทรวงพิจารณาต่อไป
อย่างไรก็ตามยืนยันว่าสำหรับรถรุ่นเก่าที่เติมดีเซลB10 หรือชื่อใหม่ “ดีเซล” ไม่ได้ แต่เกิดความเข้าใจผิดและเติมน้ำมันผิดชนิดลงไป จะไม่เกิดปัญหากับเครื่องยนต์ในทันที แต่อาจใช้เวลาเกือบ 1 เดือน จึงจะส่งสัญญาณว่าเกิดปัญหากับเครื่องยนต์ ซึ่งกรมฯจะเร่งให้ผู้ค้าน้ำมันร่วมกันประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้ดีเซลได้เข้าใจอย่างถูกต้องโดยเร็ว เพื่อให้ผู้ใช้น้ำมันได้อ่านทำความเข้าใจในทันที
โดยตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2563 เป็นต้นไป น้ำมันดีเซลที่จำหน่ายอยู่หลักๆ จะมีอยู่ 3 ชนิดคือ 1.ดีเซล ( น้ำมันดีเซลB10 เดิม ) 2.น้ำมันดีเซล B7 (น้ำมันดีเซลเดิม) และ 3. ดีเซลB20 ที่เป็นทางเลือกสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่
สำหรับปั๊มน้ำมันทั่วประเทศไทยมีอยู่ 25,000 แห่ง แบ่งเป็นปั๊มที่มีแบรนด์ 6,800 แห่ง และเป็นปั๊มอิสระอีก 18,200 แห่ง โดยปัจจุบันปั๊มแบรนด์ ได้เปลี่ยนชื่อ B10 เป็นดีเซลแล้วในสัดส่วน 95% จาก 6,800 แห่ง ส่วนปั๊มอิสระ จะต้องลงไปตรวจสอบและขอความร่วมมือให้เปลี่ยนชื่อ เนื่องจากกฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งอาจมีความผิด แต่กรมฯจะเน้นวิธีขอความร่วมมือและประชาสัมพันธ์ก่อน ซึ่งกลางเดือน ต.ค. 2563 นี้ กรมฯจะจัดส่งรถโมบายเคลื่อนที่ตรวจสภาพน้ำมัน และจะใช้เป็นช่องทางสื่อสารกับปั๊มน้ำมันแต่ละแห่งในการเปลี่ยนชื่อ B10 ให้เป็นดีเซลทั้งหมด ทั้งนี้ยอมรับว่าในช่วงสัปดาห์แรกของการกำหนดให้เปลี่ยนชื่อน้ำมันดีเซล อาจยังไม่เรียบร้อยทุกปั๊ม แต่กรมฯจะเร่งทำความเข้าใจและให้เปลี่ยนโดยเร็วต่อไป