- Advertisment-

หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานสถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์วันที่ 9 – 13 ธ.ค. 67 และแนวโน้มในสัปดาห์วันที่ 16 – 20 ธ.ค. 67 โดยระบุว่าราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 1 เดือน หลังยุโรปออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม และจีนมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2568

สหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย รอบที่ 15 โดยมุ่งเป้าไปที่เรือบรรทุกน้ำมันที่ขนส่งน้ำมันของรัสเซียและบริษัทจีนที่ผลิตโดรนให้กับรัสเซีย โดยจะมีผลบังคับใช้หลังได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรป (EU Foreign Affairs Council: FAC)

สำนักข่าว Reuters รายงานว่ารัฐบาลจีนเผยในที่ประชุมร่วมคณะรัฐมนตรีในการประชุม Central Economic Work Conference (CEWC) ว่ามีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2568 โดยใช้แนวนโยบายทางการเงินผ่อนคลายแบบปานกลาง โดยจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และลดสัดส่วนสำรองเงินฝากขั้นต่ำของธนาคารพาณิชย์ (Reserve Requirement Ratio: RRR) ในเวลาที่เหมาะสม นอกจากนี้ รัฐบาลจีนจะกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ หลังประสบปัญหาเศรษฐกิจซบเซา และสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ แต่ยังไม่ระบุรายละเอียด

- Advertisment -

หน่วยงานศุลกากรของจีน (General Administration of Customs: GAC) รายงานว่าปริมาณนำเข้าน้ำมันดิบในเดือน พ.ย. 67 เพิ่มขึ้น 14.3% จากปีก่อนหน้า อยู่ที่ 11.86 MMBD เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน แตะระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือน

IEA คาดการณ์ว่าหากสมาชิกกลุ่ม OPEC+ 8 ประเทศ เพิ่มการผลิตน้ำมันดิบปริมาณ 138,000 บาร์เรลต่อวัน/เดือน ตั้งแต่เดือน เม.ย. 68 – ก.ย. 69 จะส่งผลให้อุปทานน้ำมันโลกในปี 2568 มากกว่าอุปสงค์ (Surplus) อยู่ที่ 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน (หาก OPEC+ ไม่ปรับเพิ่มตามแผนจะ Surplus อยู่ที่ 950,000 บาร์เรลต่อวัน)

กลุ่ม OPEC ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2567 ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 5 โดยรายงานฉบับเดือน ธ.ค. 67 ของ OPEC คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันโลกปี 2568 จะเพิ่มขึ้น 1.45 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อนหน้า อยู่ที่ 105.78 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ลดลงจากครั้งก่อน 0.30 ล้านบาร์เรลต่อวัน) เนื่องจากอุปสงค์ของอเมริกาเหนือ อินเดีย และตะวันออกกลางมีแนวโน้มชะลอตัวกว่าที่เคยคาดการณ์

Advertisment