ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มสูงขึ้น จากปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ในรัสเซียและตะวันออกกลาง

203
- Advertisment-

หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานสถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์ วันที่ 12 – 16 ส.ค. 67 และแนวโน้มในสัปดาห์วันที่ 19 – 23 ส.ค. 67 โดยระบุว่าราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ในรัสเซียและตะวันออกกลาง

เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 67 ที่ผ่านมา กองทัพยูเครนได้ทำลายสะพานเหนือแม่น้ำ Seym ในแคว้น Kursk ส่งผลกระทบต่อการลำเลียงกำลังพลและเสบียงของกองทัพรัสเซีย ในขณะที่ สำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (Internatioal Atomic Energy Agency : IAEA) แสดงความกังวลต่อความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Zaporizhzhia (5.7 กิกะวัตต์) ซึ่งถูกโจมตีด้วยโดรนของฝ่ายยูเครน อย่างไรก็ตามโรงไฟฟ้าไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

อีกด้านหนึ่ง การเจรจาหยุดยิง (Ceasefire) ในฉนวน Gaza ที่เมือง Doha ประเทศกาตาร์  ในวันที่ 15-16 ส.ค. 67 มีความคืบหน้าในเชิงบวก อย่างไรก็ดี ก็ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ โดยจะมีการเจรจาต่อที่กรุง Cairo ประเทศอียิปต์ในสัปดาห์นี้ ซึ่ง รมว. กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ นาย Antony Blinken ได้เดินทางมายังตะวันออกกลางเพื่อผลักดันการเจรจา และข้อตกลงในการปล่อยตัวประกัน

- Advertisment -

ในขณะเดียวกัน รายงานฉบับเดือน ส.ค. 67 ของกลุ่ม OPEC คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2567 จะเพิ่มขึ้น 2.11 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อนหน้า อยู่ที่ 104.32 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ลดลงจากการคาดการณ์ครั้งก่อน 0.18 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ในปี 2568 เพิ่มขึ้น 1.79 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อนหน้า อยู่ที่ 106.11 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ลดลงจากครั้งก่อน 0.19 ล้านบาร์เรลต่อวัน) เป็นการปรับลดคาดการณ์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 66 เนื่องจากวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์ส่งผลให้อุปสงค์ในจีนฟื้นตัวล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ อย่างไรก็ตาม OPEC ผลิตน้ำมันดิบในเดือน ก.ค. 67 เพิ่มขึ้น 0.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 26.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน

วันที่ 15 ส.ค. 67 สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (National Bureau of Statistics: NBS) รายงานว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) อยู่ที่ +5.1% จากปีก่อนหน้า ซึ่งชะลอตัวจากเดือน มิ.ย. 67 ซึ่งอยู่ที่ +5.3% จากปีก่อนหน้า ขณะที่อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) ในจีน เพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 5.2% เนื่องจากอัตราการว่างงานในตัวเมืองเพิ่มสูงขึ้น  

Advertisment