กรมธุรกิจพลังงานประชุมนัดแรกร่วมกับ ปตท.และธนาคารกรุงไทย เดินหน้าโครงการเติมน้ำมันราคาถูกสำหรับกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กำหนดเกณฑ์เติมได้ไม่เกิน 5 ลิตรต่อคนต่อวัน หรือ 450 บาทต่อเดือน ประเดิมเป็นของขวัญปีใหม่เริ่มโครงการได้ก่อนสิ้นปี 2561 โดยให้ ปตท.ช่วยแบกรับภาระอุดหนุนราคาไปก่อน
นายสมบูรณ์ หน่อแก้ว รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า กรมธุรกิจพลังงานได้ประชุมร่วมกับผู้แทน บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน)และผู้แทนจากธนาคารกรุงไทย เพื่อเตรียมออกมาตรการช่วยเหลือผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง(วินมอเตอร์ไซต์)ให้สามารถเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 ได้ราคาถูก ซึ่งจะต่ำกว่าราคาจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 ทั่วไป 3 บาทต่อลิตร โดยให้สิทธิ์สำหรับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและขึ้นทะเบียนกับกรมขนส่งทางบกอย่างถูกต้อง คาดว่าจะเริ่มประกาศใช้ได้ก่อนสิ้นปี 2561 นี้ หรือก่อนปีใหม่
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่มีสิทธิ์ใช้น้ำมันราคาถูกประมาณ 4 หมื่นราย จากผู้ประกอบการมอเตอร์ไซค์รับจ้างทั้งหมด 2 แสนราย แต่จะมีข้อจำกัดให้เติมน้ำมันดังกล่าวได้ไม่เกิน 5 ลิตรต่อคันต่อวัน หรือ ประมาณ 150 ลิตรต่อเดือน คิดเป็นเงินประมาณ 450 บาทต่อคนต่อเดือน โดยเบื้องต้นทาง ปตท.จะเป็นผู้รับภาระราคาดังกล่าวไปก่อน
อย่างไรก็ตามจากการหารือกับ ปตท.และธนาคารกรุงไทยพบว่า จะต้องหาทางออกร่วมกันเกี่ยวกับการใช้เครื่องรูดบัตรอัตโนมัติสำหรับวินมอเตอร์ไซต์ เนื่องจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องใช้กับเครื่องรูดบัตรอัตโนมัติของธนาคารกรุงไทยเท่านั้น ที่ประชุมจึงได้มอบหมายให้ ปตท.ไปหารือกับธนาคารกสิกรไทยว่าสามารถให้บริการรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของวินมอเตอร์ไซต์ได้หรือไม่ ขณะเดียวกันให้ธนาคารกรุงไทยหารือกับกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ว่าจะสามารถจัดหาเครื่องรูดบัตรไปติดตั้งในปั๊มปตท.ทั้งหมด 1,800 แห่งได้หรือไม่ โดยทั้งหมดจะกลับมาประชุมเพื่อหาทางออกร่วมกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
สำหรับโครงการน้ำมันราคาถูกสำหรับวินมอเตอร์ไซค์ดังกล่าวที่คาดว่าจะเริ่มได้ก่อนปีใหม่นี้ ส่วนกลุ่มที่เข้าร่วมโครงการไม่ทันทางกรมบัญชีกลางจะเปิดให้ผู้มีสิทธิ์สมัครได้อีกครั้งในเดือน เม.ย. 2562 ต่อไป
ทีมข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน Energy News Center – ENC รายงานว่า ก่อนหน้านี้ มีการพิจารณาเพื่อนำเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 มาช่วยอุดหนุนราคาให้แก่ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยกองทุนน้ำมันฯ จะช่วย 2 บาท และผู้ค้าตามมาตรา 7 จะช่วยอีก 1 บาท อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการนำเงินกองทุนน้ำมันฯ มาใช้ในกรณีนี้ ว่าอาจไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของกองทุนน้ำมันฯ ซึ่งในการประชุมวันนี้ ไม่ได้เปิดเผยว่ามีการพิจารณาเรื่องการนำเงินกองทุนน้ำมันฯ มาอุดหนุน หรือไม่
อย่างไรก็ตาม การนำเงินกองทุนน้ำมันฯมาใช้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)
