กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเผยตัวเลขรายได้การประกอบกิจการปิโตรเลียม ในส่วนของรัฐสำหรับปีงบประมาณ 2562 (เดือนตุลาคม 2561-กันยายน 2562) กว่า1.66 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2561 ที่มีการจัดเก็บอยู่ที่ 110,677 ล้านบาท จำนวน 55,655 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50.29%
นางเปรมฤทัย วินัยแพทย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน มีการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐจากการประกอบกิจการปิโตรเลียม ในปีงบประมาณ 2562 (เดือนตุลาคม 2561-กันยายน 2562) จำนวนรวมทั้งสิ้น 166,332 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นค่าภาคหลวง จำนวน 45,555 ล้านบาท เงินผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษ 1,151 ล้านบาท รายได้จากองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย จำนวน 12,688 ล้านบาท ค่าตอบแทนการต่อระยะเวลาการผลิต จำนวน 7,758 ล้านบาท รวมถึงภาษีเงินได้ปิโตรเลียมซึ่งจัดเก็บโดยกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง จำนวน 99,179 ล้านบาท
โดยภาพรวมการจัดเก็บรายได้ในปี 2562 เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มีการจัดเก็บอยู่ที่ 110,677 ล้านบาท จำนวน 55,655 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50.29%
ทั้งนี้ ในช่วงปีงบประมาณ 2562 มีสัมปทานปิโตรเลียมในประเทศที่ดำเนินการอยู่ 38 สัมปทาน 48 แปลงสำรวจ โดยแบ่งเป็นแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย 29 แปลง และแปลงสำรวจบนบก 19 แปลง ซึ่งมีปริมาณการผลิตปิโตรเลียมทั้งก๊าซธรรมชาติ ก๊าซธรรมชาติเหลว และน้ำมันดิบ คิดเป็นปริมาณรวมอยู่ที่ 274.73 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ซึ่งลดลง 0.5% เมื่อเทียบกับปริมาณการผลิตในปี 2561 ที่มีปริมาณการผลิตอยู่ที่ 276.16 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ เนื่องจากมีการหยุดซ่อมบำรุงอุปกรณ์ประจำปีในบางแหล่ง จึงจำเป็นต้องหยุดผลิตในบางช่วง
อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บรายได้จากการประกอบกิจการปิโตรเลียมในแต่ละปี จะมีจำนวนมากขึ้นหรือน้อยลงนั้น จะขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ เช่น ค่าเงินบาท ราคาน้ำมันในตลาดโลก ปริมาณการผลิตปิโตรเลียม เป็นต้น