ภาคพลังงานสานพลังกายพลังใจสู้ภัย COVID-19

1288
- Advertisment-

ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19  ในประเทศไทย หลายองค์กรภาครัฐซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรง ต่างทุ่มเทสรรพกำลังอย่างเต็มที่ในการป้องกัน และขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือในการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” เพื่อให้รัฐมีความคล่องตัวในการบริหารจัดการเพื่อควบคุมสถานการณ์ได้ดียิ่งขึ้น

ในส่วนภาคพลังงาน ทีมศูนย์ข่าวพลังงาน Energy News Center – ENC  ได้รวบรวมการดำเนินการที่สำคัญๆ ของหลายหน่วยงานด้านพลังงาน ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจ ออกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดและช่วยบรรเทาผลกระทบจาก COVID-19 ต่อประชาชนคนไทย เพื่อให้สามารถก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งความยากลำบากไปด้วยกัน

  1. กระทรวงพลังงาน

มาตรการลดภาระค่าครองชีพ

- Advertisment -
  • ปรับลดราคาก๊าซหุงต้มลง 45 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน มีผลตั้งแต่ 24 มี.ค. 2563 นี้
  • ปตท. ตรึงราคาขายปลีก NGV สำหรับรถโดยสารสาธารณะ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 1 พ.ค. – 31 ก.ค. 2563 ส่วนรถทั่วไปตรึงราคาที่ 15.31 บาทต่อกิโลกรัม ต่อไปอีก 5 เดือน ตั้งแต่ 16 มี.ค. – 15 ส.ค. 2363 และล่าสุด กระทรวงพลังงานยังขอความร่วมมือ ปตท. เพื่อปรับลดราคาก๊าซ NGV สำหรับกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ ลง 3 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน โดยจะนำเข้าไปหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) และ ฝ่ายบริหาร ปตท. จะเสนอบอร์ดพิจารณาอนุมัติต่อไป

มาตรการช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อ COVID-19  

  • ประสานกรมสรรพสามิต ปลดล็อคและลดขั้นตอนการนำเอทานอลส่วนเกินจากภาคพลังงานที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง ที่มีอยู่ประมาณ 1 ล้านลิตรต่อวัน มาผลิตเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ

  1. การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มีมาตรการดังนี้

มาตรการช่วยลดภาระค่าครองชีพ

  • ลดค่าไฟฟ้าร้อยละ 3 สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภท เป็นระยะเวลา 3 เดือน (เมษายน – มิถุนายน 2563) คาดว่าจะใช้งบประมาณรวม 5,160 ล้านบาท
  • ขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้า สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทกิจการเฉพาะอย่าง (ธุรกิจโรงแรมและกิจการให้เช่าพักอาศัย) โดยไม่คิดดอกเบี้ย ตลอดระยะเวลาการผ่อนผันโดยไม่มีการงดจ่ายไฟฟ้าเป็นการชั่วคราว ไม่เกิน 6 เดือนของแต่ละรอบบิล สำหรับใบแจ้งค่าไฟฟ้า ประจำเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2563
  • คืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัย และประเภทที่ 2 กิจการขนาดเล็ก รวม 17 ล้านราย วงเงิน 32,700 ล้านบาท เริ่มทยอยคืนเงินได้ตั้งแต่ 31 มี.ค.นี้ เป็นต้นไป

  1. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
  • มอบเจลแอลกอฮอล์ล้าง ‘น้ำใจ’ กฟผ. และหน้ากากอนามัย
  • มอบคอมพิวเตอร์ จำนวน 5 เครื่อง ให้แก่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อร่วมสนับสนุนการสื่อสารให้ประชาชนรับทราบข้อมูลข่าวสารสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19
  • ปิดศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ทั่วประเทศ จำนวน 6 แห่ง ทั่วประเทศ และงดให้ประชาชนเข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูงานที่โรงไฟฟ้า จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19
  • มาตรการ Work from Home “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” โดยให้พนักงานปฏิบัติงานจากที่พักอาศัย ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม – 30 เมษายน 2563 เพื่อลดความแออัดและความเสี่ยงการติดเชื้อ COVID-19 ในที่ทำงานและที่สาธารณะ โดยให้พนักงานและลูกจ้างชั่วคราวสลับกันปฏิบัติงานจากที่พักอาศัย ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างราบรื่นต่อเนื่อง โดยไม่กระทบต่อการผลิตและส่งจ่ายกำลังไฟฟ้าให้แก่ประชาชนและความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศ

  1. กลุ่ม ปตท.
  • ร่วมกับสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC)  โรงพยาบาลศิริราช ธนาคารไทยพาณิชย์ และภาคีเครือข่าย เพื่อวิจัยชุดตรวจ COVID-19 ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยนักวิจัยคนไทยครั้งแรกในโลก ช่วยลดระยะเวลาการวินิจฉัยโรคได้ภายใน 30 – 45 นาที ซึ่งรวดเร็วกว่าวิธีการตรวจในปัจจุบันที่ใช้เวลา 4 – 6 ชั่วโมง ด้วยต้นทุนต่ำ ทำให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย
  • สนับสนุนแอลกอฮอล์ ปริมาณ 15,000 ลิตร ให้แก่องค์การเภสัชกรรม ผลิตเจลล้างมือ
  • “ชมรมพลังไทย ใจอาสา กลุ่ม ปตท.” และ “มูลนิธิพลังที่ยั่งยืน” ผู้บริหาร พนักงานกลุ่ม ปตท. และชุมชนเครือข่าย ร่วมทำหน้ากากอนามัยจากผ้า จำนวน 3,000 ชิ้น ระหว่างวันที่ 23 – 27 มีนาคม 2563 เพื่อส่งมอบให้กรมกิจการผู้สูงอายุ สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำไปกระจายแก่ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ อันเป็นการช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในผู้สูงอายุซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • Work from Home ในส่วนงานที่สามารถดำเนินการได้

บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (โออาร์)

  • มอบ กาแฟดริป คาเฟ่ อเมซอน จำนวน 5,000 ซอง พร้อมด้วยขนมปั้นขลิบ และขนมปังกรอบ ซึ่งเป็นสินค้า โอทอปจาก เอสเอ็มอีไทย รวม 480 ชุด ให้สถาบันบำราศนราดูร และ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
  • เพิ่มมาตรการด้านสุขอนามัย และปรับรูปแบบการให้บริการ เพื่อลดโอกาสการแพร่กระจายของเชื้อ COVID-19 โดยเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือแอลกอฮอล์ ให้พนักงานทุกคนล้างมือและสวมหน้ากากอนามัยระหว่างปฏิบัติหน้าที่ มีจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ให้บริการแก่ผู้บริโภค
  • ปรับแผนการแจกเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือ จำนวน 1 ล้านชิ้น ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ระหว่างวันจันทร์ที่ 30 มีนาคม 2563 – วันจันทร์ที่ 20 เมษายน 2563
  • จัดเตรียมน้ำดื่มขนาด 350 มิลลิลิตร จำนวน 1 ล้านขวด เพื่อมอบให้กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับส่งอาหาร รวมถึงรถมอเตอร์ไซค์ทุกคันที่เข้ามาใช้บริการเติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น จำนวน 60 สาขาในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจำนวน 1 ขวด ต่อ 1 คัน โดยไม่จำกัดจำนวนการเติมขั้นต่ำ ตั้งแต่วันที่ 1-30 เมษายน 2563
  • จัดทำแผ่นพับให้ความรู้เกี่ยวกับ COVID–19 อาทิ การป้องกัน การสังเกตอาการ และขั้นตอนการปฏิบัติตนเมื่อมีความเสี่ยงในการติดเชื้อ เพื่อแจกให้ผู้ที่มาใช้บริการที่สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2563

  • ร้านคาเฟ่ อเมซอน ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยงดการนั่งรับประทานที่ร้าน แต่สามารถสั่งนำกลับ (Take Away) หรือใช้บริการส่งอาหาร (Delivery) ได้ ระหว่าง 22 มี.ค.-12 เม.ย. หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง และขอความร่วมมือลูกค้าที่มาใช้บริการยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร หรือยืนตามจุดที่มีการทำสัญลักษณ์ไว้ที่พื้นระหว่างรอสั่งสินค้า รอชำระเงิน และรอรับสินค้า และจัดให้มีเจลแอลกอฮอล์บริการทุกสาขา และพนักงานทุกคนต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ COVID-19 อย่างเคร่งครัด
  • ศูนย์บริการยานยนต์ ฟิต ออโต้ มอบส่วนลดเพิ่มเติม 5% สำหรับลูกค้าที่จองคิวนัดหมายเข้ารับบริการล่วงหน้า ผ่านทาง pttfitauto.com หรือ Application FIT Auto เพื่อลดความแออัด และยกระดับข้อปฏิบัติมาตรฐานในการบริการด้านสุขอนามัย เช่น กำหนดให้พนักงานทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัยขณะปฏิบัติงาน เช็ดทำความสะอาดพื้นที่สัมผัสต่าง ๆ อย่างน้อย 3 ครั้งต่อวัน ล้างมือด้วยสบู่หรือน้ำยาทำความสะอาดก่อนให้บริการ และทำความสะอาดทั่วทุกบริเวณร้านหลังปิดให้บริการ

กลุ่มบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC

  • มอบเสื้อกาวน์เพื่อป้องกันการติดเชื้อสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 41,000 ชุด เพื่อใช้ในโรงพยาบาลและสถานประกอบการ ทั้งหมด 12 แห่งที่ให้การรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส COVID-19 โดยเป็นเสื้อกาวน์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Disposable Gown) ผลิตจากเม็ดพลาสติกชนิดโพลีเอทิลีนคุณภาพดีจาก GC
  • มอบกลีเซอรีนคุณภาพสูง จำนวน 1,250 กิโลกรัมเพื่อใช้เป็นส่วนผสมในการจัดทำเจลแอลกอฮอล์เพื่อทำความสะอาดมือ เพื่อแจกจ่ายให้กับกำลังพลและครอบครัว รวมถึงประชาชนในพื้นที่

  1. บริษัท บี. กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM
  • มีแผนงาน BCP (Business Continuity Plan) และมีคณะทำงานเฉพาะกิจ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด  โดยบริษัทได้กำหนดมาตรการความปลอดภัยสำหรับพนักงานที่จำเป็นต้องปฏิบัติงานที่โรงไฟฟ้าและสำนักงานกรุงเทพอย่างเข้มงวด และมีนโยบายให้พนักงานทำงานจากบ้าน (Work from Home) โดยใช้ระบบเทคโนโลยีดิจิตัลในการสนับสนุนการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ระบบ VPN การประชุมทางไกลผ่านวีดีโอ (Video Conference) ซึ่งพนักงานสามารถปฏิบัติงานนอกสถานที่ทำงานได้ตลอดเวลา และระบบมีความปลอดภัยสูงสุด ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่า จะสามารถปฏิบัติงานและดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงาน

  1. บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF
  • มอบเงินสนับสนุนจำนวน 20 ล้านบาทแก่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจจำนวน 5 เครื่อง และเครื่องช่วยพยุงการทำงานของปอดและหัวใจ (เครื่องเอคโม – ECMO) จำนวน 3 เครื่อง โดยเครื่อง ECMO มีศักยภาพในการทำงานทดแทนปอดและหัวใจได้ ที่ช่วยเหลือผู้ป่วยที่ปอดหรือหัวใจทำงานได้ไม่เต็มที่ หรือเกิดความผิดปกติขึ้น นับเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่สำคัญและขาดแคลน

Advertisment