พลังงาน คาดโควตาโครงการโซลาร์ภาคประชาชนรอบใหม่ เปิดรับซื้อเพิ่มปีละประมาณ 400 เมกะวัตต์ แต่ต้องพิจารณาแบบปีต่อปีเพื่อความเหมาะสม ยอมรับขณะนี้ยังเปิดรับซื้อไฟฟ้าไม่ได้ ต้องรอความชัดเจนกรณีตรวจสอบการเปิดรับซื้อไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 ให้เสร็จสิ้นก่อน เพื่อให้การจัดทำแผน PDP ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทนสมบูรณ์และทราบปริมาณรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์ภาคประชาชนอย่างชัดเจน คาดปี 2568 น่าจะเปิดรับซื้อได้
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center-ENC) รายงานความคืบหน้าโครงการโซลาร์ภาคประชาชนว่า กระทรวงพลังงานมีแนวคิดที่จะขยายการรับซื้อไฟฟ้าในโครงการโซลาร์ภาคประชาชนเพิ่มเติม หลังจากที่ได้หยุดรับซื้อไฟฟ้าไปตั้งแต่ประมาณเดือน ก.ค. 2567 ที่ผ่านมา เนื่องจากในขณะนั้นมีผู้สนใจผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) จำนวนมากเข้าร่วมโครงการโซลาร์ภาคประชาชน จนส่งผลให้ปริมาณไฟฟ้าเต็มโควตาที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กำหนดรับซื้อทั้งสิ้น 90 เมกะวัตต์
ดังนั้นกระทรวงพลังงานคาดว่าจะเปิดรับซื้อรอบใหม่ได้ไม่น้อยกว่า 400 เมกะวัตต์ต่อปี โดยอาจต้องพิจารณาในลักษณะปีต่อปีตามความเหมาะสมอีกครั้ง ซึ่งนับเป็นปริมาณมากที่สุดเท่าที่เคยเปิดรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์ภาคประชาชนมา เนื่องจากมีผู้ต้องการขายไฟฟ้าเข้าระบบจำนวนมากขึ้น และภาครัฐส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทน แต่อย่างไรก็ตามจะต้องพิจารณาในส่วนของระบบสายส่งที่จะรองรับปริมาณไฟฟ้าดังกล่าวก่อนด้วย
สำหรับการเปิดรับซื้อไฟฟ้าโครงการโซลาร์ภาคประชาชนรอบใหม่นั้น คงต้องรอให้การจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาวของไทย หรือ แผน PDP ฉบับใหม่เสร็จสิ้นก่อน และอาจต้องเปลี่ยนชื่อจาก แผน PDP 2024 เป็นแผน PDP 2025 แทน เนื่องจากในปี 2567 ที่ผ่านมาไม่สามารถจัดทำแผนฯ ได้สำเร็จ และหากสำเร็จในปี 2568 จะต้องใช้ชื่อแผน PDP 2025 แทน ซึ่งจะครอบคลุมการใช้งานระหว่างปี 2568-2580
โดยขณะนี้แผน PDP ฉบับใหม่ ยังติดปัญหาในเรื่องของพลังงานทดแทน กรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) พิจารณาและมีมติเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2567 ให้หยุดการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 หรือ “โครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม สำหรับกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงและขยะอุตสาหกรรม ตามแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด สำหรับปี 2565 – 2573” ปริมาณรวม 3,668.5 เมกะวัตต์ เพื่อดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง ในกรณีการแบ่งรับซื้อไฟฟ้าสีเขียว 2,180 เมกะวัตต์จากทั้งหมด 3,668.5 เมกะวัตต์ ให้เฉพาะกลุ่มผู้ที่เคยผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติแต่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการไฟฟ้าสีเขียวในรอบแรก จะได้รับการพิจารณาก่อนนั้น จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อกฎหมายดังกล่าว
ดังนั้นเมื่อยังไม่มีความชัดเจน จึงทำให้แผน PDP ฉบับใหม่ ไม่สามารถบรรจุปริมาณไฟฟ้าพลังงานทดแทนเข้าไปในแผน PDP ได้อย่างแม่นยำ จึงต้องรอความชัดเจนให้เกิดขึ้นก่อน และในแผน PDP จะต้องพิจารณาพลังงานทดแทนอื่นๆ รวมทั้งการผลิตไฟฟ้าจากโครงการโซลาร์ภาคประชาชนให้สอดรับกันด้วย ดังนั้นขณะนี้กระทรวงพลังงานจึงยังไม่สามารถประกาศการรับซื้อไฟฟ้าโครงการโซลาร์ภาคประชาชนได้จนกว่าแผน PDP ฉบับใหม่จะเสร็จสิ้น เบื้องต้นคาดว่าแผน PDP ฉบับใหม่จะแล้วเสร็จในปี 2568 และเปิดรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์ภาคประชาชนได้ต่อไป
สำหรับโครงการโซลาร์ภาคประชาชนนั้น ในช่วงเริ่มต้นโครงการฯ ปี 2562-2565 ที่เปิดรับซื้อไฟฟ้าแบบปีต่อปี พบว่ามีผู้เข้าร่วมโครงการไม่ถึงเป้าหมายแม้แต่ปีเดียว โดยเปิดรับซื้อไฟฟ้ารวม 260 เมกะวัตต์ แต่มีผู้เข้าร่วมโครงการฯ ผลิตไฟฟ้าเข้าระบบเพียง 9 เมกะวัตต์ ซึ่งแบ่งเป็นดังนี้
ในปี 2562 -2565 เปิดรับซื้อไฟฟ้าปีละ 100 เมกะวัตต์ แต่มีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการฯ ผลิตไฟฟ้าเข้าระบบเพียง 3-4 เมกะวัตต์เท่านั้น เนื่องจากราคารับซื้อไฟฟ้าที่ 1.68 บาทต่อหน่วย ไม่จูงใจ
ต่อมาในปี 2564 จึงปรับลดเป้าหมายรับซื้อไฟฟ้าเหลือ 50 เมกะวัตต์ และปรับเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าเป็น 2.20 บาทต่อหน่วย แต่ก็มีผู้เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อขายไฟฟ้าเพียง 3 เมกะวัตต์ เท่านั้น และในปี 2565 ปรับลดเป้าหมายการรับซื้อไฟฟ้าลงอีกครั้งเหลือ 10 เมกะวัตต์ ในราคาเดิมที่ 2.20 บาทต่อหน่วย ก็มีผู้เข้าร่วมโครงการฯ เพียง 1.37 เมกะวัตต์
จากนั้นในเดือน มี.ค. 2566 กกพ. ปรับหลักเกณฑ์เป็นการรับซื้อระยะยาว 10 ปี (2564-2573) รวม 90 เมกะวัตต์ ซึ่งหลักเกณฑ์ใหม่ดังกล่าวก็เริ่มใช้ในปี 2566 นี้ และพบว่าประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมมากขึ้น มีการผลิตไฟฟ้าเข้าระบบรวมกว่า 10 เมกะวัตต์ จากเป้าหมาย 90 เมกะวัตต์ ใน 10 ปี และยังมีกลุ่มผู้ร่วมโครงการฯ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ (รอ COD) จำนวน 2,795 ราย กำลังการผลิตติดตั้ง 15.501 เมกะวัตต์
และล่าสุดปี 2567 ณ เดือน มิ.ย. 2567 มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคิดเป็นปริมาณ 100 เมกะวัตต์ แต่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติแล้ว 89.8 เมกะวัตต์ และสุดท้ายก็รับซื้อเต็มโควตาไปแล้ว และต้องหยุดรับซื้อไฟฟ้าไปจนกว่าจะมีการเพิ่มโควตาใหม่อีกครั้ง