“สุพัฒนพงษ์”ให้กลุ่มโรงกลั่นเคลียร์ประเด็นค่าการกลั่นกับ”กรณ์” ก่อนสรุปเป็นมาตรการจากภาครัฐ

365
- Advertisment-

สุพัฒนพงษ์ แนะกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นนัด “กรณ์ จาติก​วณิช​” หารือเคลียร์ตัวเลขค่าการกลั่นให้ตรงกัน ระบุตัวเลขที่กระทรวงพลังงานคำนวณได้อยู่ที่ 3.27 บาทต่อลิตร หวังได้ข้อสรุปความร่วมมือจากผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันในการช่วยลดภาระกองทุนน้ำมันภายในสัปดาห์นี้

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการหารือกับผู้ประกอบการกลุ่มโรงกลั่นทั้งหมดจำนวน 6 ราย เพื่อขอความร่วมมือนำส่งกำไรค่าการกลั่นเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับนำมาดูแลราคาน้ำมันให้กับประชาชน ซึ่งจากการสอบถามนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นประธานการประชุม เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2565 เห็นว่าบรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี ทางผู้ประกอบการโรงกลั่นพร้อมให้ความร่วมมือ และเข้าใจภาระภาครัฐในการดูแลราคาพลังงานให้กับประชาชนในช่วงนี้ และพร้อมนำข้อมูลที่หารือกลับไปพิจารณา

แต่ขณะนี้ยังมีเรื่องของตัวเลขการคำนวณค่าการกลั่นที่แตกต่างกัน เช่น ในส่วนของกระทรวงพลังงาน โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) ได้ติดตามข้อมูลค่าการกลั่นย้อนหลัง 6 เดือนของปี 2565 นี้ พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3.27 บาทต่อลิตร ขณะที่นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลการคำนวณ ซึ่งพบว่า ค่าการกลั่นมีตัวเลขสูงถึง 8.50 บาทต่อลิตร ส่วนทางด้าน 6 โรงกลั่นเอง ก็มีวิธีการคำนวนที่แตกต่างกัน ดังนั้น เพื่อป้องกันข้อครหาที่เกิดขึ้นกับสังคมและประชาชน จึงขอให้ทางโรงกลั่นเคลียร์ตัวเลขค่าการกลั่นให้ชัดเจนก่อนว่าได้เกินสมควรหรือไม่ หากได้ค่าการกลั่นเกินไปมากก็ต้องใช้กฎหมายเข้ามาดูแล แต่ตอนนี้เป็นการขอความร่วมมือก่อน

- Advertisment -

“วันนี้ ก็ควรจะจบได้แล้ว ควรมีคำตอบ และถ้าเป็นไปได้ก็ควรเชิญท่านอดีตรัฐมนตรีฯ มาพูดคุยกัน จะหาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ หรือ หาคนกลางมาช่วยก็ได้ เอาให้จบเหลือเพียงตัวเลขเดียว และจากการถามท่านปลัดฯ ถึงบรรยากาศในการหารือกับ 6 โรงกลั่นฯ เขาก็พร้อมให้ความร่วมมือเพราะเข้าใจภาระของรัฐบาลและประชาชน ซึ่ง 6โรงกลั่นพร้อมพิจารณาในเรื่องนี้ แต่ตัวเลขจะเป็นเท่าไหร่นั้น ยังจะต้องเคลียร์ส่วนต่างค่าการกลั่นให้ตกผลึกก่อน”

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จากการหารือร่วมกับ 6 โรงกลั่น ก็อยู่ระหว่างการคำนวณอัตราที่เหมาะสม และหาจุดสมดุล ซึ่งทางสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ก็อยู่ระหว่างประสานงานกับ 6 โรงกลั่นอย่างใกล้ชิด เพื่อนำอัตราดังกล่าวฯ เข้าสู่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยคาดว่า เรื่องนี้จะมีความชัดเจนภายในเดือน มิ.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center- ENC) รายงานว่า ในการหารือระหว่างกระทรวงพลังงานกับกลุ่มโรงกลั่น 6 ราย เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2565 นั้น ทางผู้ประกอบการระบุว่าวงเงินที่โรงกลั่นน้ำมันจะต้องจ่ายเข้ากองทุนน้ำมันฯ ในช่วง 3 เดือน ( ก.ค.-ก.ย. 2565 ) ยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นเท่าใด การให้ความร่วมมือก็ต้องถูกกฏหมายด้วย โดยต้องดูหลายด้าน เพราะกระทบผู้ถือหุ้น ที่ส่วนหนึ่งเป็นประชาชนทั่วไปเช่นกัน และหลักเกณฑ์การคำนวณก็ยังไม่ชัดเจน โดยตัวเลขที่ระบุว่าจะสูงถึง 2 หมื่นล้านบาทนั้น เป็นเพียงแนวคิดเบื้องต้นที่ กระทรวงพลังงานคิดมาเท่านั้น ส่วนการนำไปหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2565  ก็เป็นกรอบเบื้องต้น ซึ่งคณะทำงานร่วมจะต้องหารือในรายละเอียดต่อไป

Advertisment