กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.)เสนอรัฐมนตรีพลังงานปรับเปลี่ยนโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลประชารัฐภาคใต้ มารวมอยู่ภายใต้นโยบายส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชนแทนเพื่อความคล่องตัวในการดำเนินการ คาดกำหนดอัตราFeed in Tariff หรือ FiT ใกล้เคียงกับอัตราที่ประกาศใช้ในปัจจุบัน ในขณะที่พื้นที่ใดมีเอกชนหลายรายสนใจร่วมลงทุน อาจให้ใช้วิธีประมูลแข่งขันราคา เพื่อความเป็นธรรม
นายยงยุทธ จันทรโรทัย อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) เปิดเผยว่า พพ.จะเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานให้มีการปรับนโยบายส่งเสริมโรงไฟฟ้าประชารัฐในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขนาด120 เมกะวัตต์ มารวมอยู่ในโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ที่อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดหลักเกณฑ์ เนื่องจากการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าประชารัฐในช่วงที่ผ่านมามีความล่าช้า เพราะติดขัดเรื่อง พ.ร.บ.การให้หน่วยงานรัฐร่วมทุน โดยหากปรับมาเป็นรูปแบบโรงไฟฟ้าชุมชน ที่ให้ชุมชนดำเนินการเอง หรือร่วมมือกับเอกชนและภาครัฐ ก็จะทำให้โครงการเดินหน้าได้เร็วขึ้น และเป็นประโยชน์แก่ชุมชนสอดคล้องกับเป้าหมายการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ของรัฐบาล โดยชุมชนจะมีรายได้จากการขายเชื้อเพลิง และรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้า
สำหรับกรอบอัตราค่าไฟฟ้าในรูปแบบการสนับสนุนเงินตามต้นทุนที่แท้จริง(FiT )สำหรับโรงไฟฟ้าชุมชนนั้น ทางพพ.ได้หารือกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เบื้องต้นแล้ว เห็นว่าอัตราFiT ควรจะใกล้เคียงกับอัตราที่ประกาศใช้ในปัจจุบัน
ในขณะที่รูปแบบโรงไฟฟ้าชุมชนที่เปิดให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนขนาดเล็กมาก (VSPP)คือไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ โดยความเห็นส่วนตัว มองว่าหากพื้นที่ใดมีเอกชนหลายรายเสนอร่วมทุนกับชุมชนก็น่าจะใช้วิธีเสนอราคาแข่งขัน (Bidding) จะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายมากกว่า