ปตท. คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลก อีก 5 ปีข้างหน้า จะไม่ต่ำกว่า 60-80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ในปี 2562 จะอยู่ที่ 60-70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐอเมริกา ช่วยรักษาเสถียรภาพและสมดุลราคาในตลาดโลก
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ประเมินสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลก ในปี 2562 จะอยู่ที่ระดับ 60-70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และเชื่อว่าราคาจะไม่ปรับขึ้นไปถึงระดับ 80-90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากการลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน หรือ โอเปก เพื่อรักษาสมดุลในตลาด ขณะเดียวกันยังมีมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน เวเนซุเอลา และความไม่สงบในลิเบีย รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของผลผลิตกลุ่มนอกโอเปก (non-OPEC) อย่างเช่นสหรัฐอเมริกา และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังคงชะลอตัว
นอกจากนี้ ยังประเมินราคาน้ำมันเบนซิน ปี 2562 จะอยู่ที่ 60-65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลงจากปี 2561 ซึ่งอยู่ที่ 80.2 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เป็นผลมาจากความต้องการน้ำมันที่ลดลงและสินค้าคงคลังทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่น้ำมันดีเซล อยู่ที่ 78-82 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลงจากปีก่อนอยู่ที่ 84.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากการส่งออกจากจีนเพิ่มขึ้นหลังรัฐบาลปรับโควตาส่งออกและความต้องการที่ลดลงในช่วงฤดูหนาว
ด้าน นางอรวดี โพธิสาโร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลยุทธ์องค์กร บมจ.ปตท. กล่าวว่า ปตท. ประเมินราคาน้ำมันในปีนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 65-70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 67 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ในอีก 5 ปีข้างหน้า ราคาน้ำมันดิบจะอยู่ที่ 60-80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งเชื่อว่าราคาจะไม่ต่ำไปกว่าระดับนี้แล้ว เนื่องจากประเทศผู้ผลิตน้ำมัน หรือ โอเปก ไม่ใช่ตัวแปรหลักที่มีผลต่อราคาน้ำมันอีกต่อไป แต่จะมีสหรัฐอเมริกาซึ่งสามารถผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นเข้ามาสร้างสมดุลในตลาดน้ำมัน จึงมองว่าก๊าซธรรมชาติจะเป็นเชื้อเพลิงหลักสำหรับประเทศไทยและตลาดโลก เนื่องจากการขนส่งที่สะดวกมากขึ้นในรูปของก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG และยังเป็นเชื้อเพลิงสะอาด