ปตท.พร้อมนำร่องจำหน่ายไบโอดีเซล B10 ในทุกปั๊มของพื้นที่ภาคใต้ ครอบคลุม 340 ปั๊ม ตั้งแต่ 17 พ.ค. 2562 โดยรัฐมนตรีพลังงาน เชื่อไบโอดีเซลB10 จะเป็นน้ำมันหลักแทนดีเซลหมุนเร็วทั่วไปหรือ B7 นับตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป และราคาถูกกว่า 1บาทต่อลิตร หลังกระทรวงการคลังปรับอัตราภาษีสรรพสามิตดีเซลและใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุน 65 สตางค์ต่อลิตร ทั้งให้ผู้ค้าช่วยลดค่าการตลาด
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ปตท.จะนำร่องเริ่มจำหน่าย B10 ในปั๊ม ปตท.ที่ภาคใต้ทุกแห่งรวม 340 ปั๊ม ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. 2562 เป็นต้นไป ในราคาที่ถูกกว่าน้ำมันไบโอดีเซลB7(น้ำมันดีเซลหมุนเร็วทั่วไปที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 7% ในทุกลิตร) จำนวน 1 บาทต่อลิตร
ทั้งนี้กระทรวงพลังงานตั้งเป้าหมายให้ ดีเซลB10 กลายเป็นน้ำมันมาตรฐานหลักของประเทศในปี 2564 ทดแทนน้ำมันดีเซลB7ที่จะกลายเป็นน้ำมันทางเลือก แทน
โดยการที่ราคาดีเซลB10 ถูกกว่า B7 อัตรา 1 บาทต่อลิตร นั้นมาจากการปรับอัตราภาษีสรรพสามิตดีเซลใหม่ให้ลดลงและใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนอีก 65 สตางค์ต่อลิตร รวมทั้งให้ผู้ค้าน้ำมันลดค่าการตลาดลง ซึ่งคาดว่าจากการใช้ B10 ดังกล่าวจะช่วยให้เกิดการใช้น้ำมันปาล์มดิบ(CPO)เพิ่มขึ้นรวม 2 ล้านตันต่อปี จากปัจจุบันใช้อยู่ประมาณ 1.5 ล้านตันต่อปี
นายศิริ กล่าวว่า การประกาศมาตรฐาน ดีเซลB10 ได้สำเร็จหลังจากใช้ความพยายามมา 5 ปี เนื่องจากบริษัทค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นและค่ายรถยนต์ GM ให้การรับรองว่ารถยนต์ 11 ยี่ห้อ รวม 930 รุ่น สามารถใช้ น้ำมัน B10 ได้ (ยกเว้นค่ายรถยุโรป) ประกอบกับกรมธุรกิจพลังงานได้กำหนดให้น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 100%(B100) มีความบริสุทธิ์มากขึ้น โดยลดปริมาณโมโนกลีเซอไรด์หรือไขมันให้ต่ำลง จากเดิมไม่สูงกว่า 0.7% เป็นไม่สูงกว่า 0.4% โดยน้ำหนัก ส่งผลให้น้ำมัน B10 มีคุณภาพดีขึ้น ปัจจุบันมีผู้ผลิต B100 ที่สามารถผลิต B100 ได้มาตรฐานใหม่ดังกล่าวจำนวน 8.6 แสนลิตรต่อวัน(3 ราย) จากทั้งหมด 7.6 ล้านลิตรต่อวัน(12 ราย) คาดว่าใน 6 เดือนถึง 1 ปี จะสามารถผลิตได้เกือบหมด
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จะมีการใช้น้ำมัน B10 ในรถไฟสายกรุงเทพฯ-มหาชัย ทุกขบวนตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2562 เป็นต้นไป จากเดิมที่ทดลองใช้เพียง 3 ขบวนเท่านั้น และปตท.จะร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย ทดสอบการใช้น้ำมันไบโอดีเซลB20(น้ำมันดีเซลที่มีส่วนผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 20%ในทุกลิตร) ในเดือนมิ.ย.2562 นี้เช่นกัน ก่อนจะนำมาใช้จริงในอนาคตต่อไป
นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด(มหาชน) หรือ พีทีที โออาร์ กล่าวว่า พีทีที โออาร์ พร้อมสนับสนุนนโยบายภาครัฐ ในการนำร่องจำหน่ายดีเซล B10 ในระยะแรก ผ่านปั๊ม พีทีที สเตชั่น ทุกแห่งในภาคใต้ และจะขยายไปยังภาคตะวันออก ภาคกลาง ต่อไป
โดยในปี 2562 จะมีปั๊มที่จำหน่าย B10 รวม 340 แห่ง คาดว่าระยะแรกจะจำหน่ายB10 ได้ 3.2 ล้านลิตรต่อวัน ทำให้มียอดการใช้ B100 ในการผลิตน้ำมันดีเซล B10 มากถึง 300,000 ลิตรต่อวัน ช่วยดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบได้เพิ่มอีก 92,000 ตันต่อปี จากนั้นคาดว่าจะสามารถขยายการจำหน่ายB10 ผ่านปั๊ม พีทีที โออาร์ ทุกแห่งทั่วประเทศได้ในปี2564
สำหรับแผนงานการเพิ่มการจำหน่ายน้ำมันดีเซลบี20 ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 56 แห่ง และจะเพิ่มเป็น 100 แห่ง ทั่วประเทศภายในปี 2562 นี้
