บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)หนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ตอกย้ำเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลก และก้าวสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net-Zero Carbon Emissions ภายในปี ค.ศ. 2050 (ปี พ.ศ. 2593) โดยตั้งเป้าเติบโตสู่กำลังผลิตไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 10,000 เมกะวัตต์ในปี พ.ศ. 2573 ปัจจุบันบริษัทเดินหน้าศึกษาแนวทางการระดมทุนในหลากหลายรูปแบบ โดยคำนึงถึงการวางแผนในระยะยาว เพื่อปรับให้มีสถานะโครงสร้างทางการเงิน Capital Structure ที่แข็งแกร่ง และรองรับการเติบโตทางธุรกิจ ภายใต้ยุทธศาสตร์ระยะยาว “GreenLeap – Global and Green” พร้อมมองหาช่องทางการยกระดับความร่วมมือทางธุรกิจ มุ่งสร้างพันธมิตรทางธุรกิจในระยะยาวทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จตลอดเวลาที่ผ่านมา
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า บี.กริม เพาเวอร์ มีกลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจ คือ การร่วมกับพันธมิตรเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน อาทิ ความร่วมมือกับ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน), บริษัท ซีเมนส์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด มาอย่างยาวนานเกือบ 30 ปี,บริษัท นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย จำกัด, บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) , บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จํากัด (มหาชน), บริษัท ปูนซิเมต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจี, บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท China Energy Engineering Corporation เป็นต้น โดยเรายังคงมุ่งหน้าขยายธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารีร่วมกับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ บี.กริม เพาเวอร์ ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ โครงการโรงไฟฟ้า SPP หรือกลุ่มโรงไฟฟ้าเพื่ออุตสาหกรรม สนับสนุนการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพของภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจไทย ด้วยการสนับสนุนไฟฟ้าและไอน้ำที่มีเสถียรภาพในระดับสูง มาอย่างต่อเนื่องเกือบ 30 ปี โดยเดินหน้าปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้า นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในกระบวนการผลิตไฟฟ้า การใช้เครื่องมือดิจิตัลขั้นสูง มุ่งลดอัตราการใช้เชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่องพร้อมมุ่งจัดหาพลังงานที่ตอบโจทย์ให้กับภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้บริการด้านพลังงานแบบครบวงจรแก่ลูกค้า (Industrial Solutions) ตลอดจนการจัดหาแหล่งพลังงานทางเลือกเพื่อการผลิตไฟฟ้าสำหรับอนาคต (Sustainable Fuels) ตลอดจนการศึกษาความเป็นไปได้ในเรื่องการใช้ Green Hydrogen และ แอมโมเนีย ในการผลิตไฟฟ้า เป็นต้น
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของ บี.กริม เพาเวอร์ มุ่งมั่นในการขยายการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ทั้งในประเทศและต่างประเทศสู่เป้าหมาย ตามยุทธศาสตร์“GreenLeap – Global and Green” ของบริษัท โดยตั้งเป้าเติบโตสู่กำลังผลิตไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 10,000 เมกะวัตต์ในปี พ.ศ. 2573 โดยอยู่ระหว่างก่อสร้างและพัฒนาโครงการในประเทศเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ลาว กัมพูชา อิตาลี กรีซ สหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดิอาระเบีย รวมทั้งประเทศไทย พร้อมเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 50% ลดสัดส่วนระดับผลกระทบจากความผันผวนของราคาก๊าซธรรมชาติในระยะยาว
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ ได้เตรียมความพร้อมในส่วนของการจัดการด้านการเงินแล้ว ปัจจุบันมีเงินสดในมือสูงถึง 29,000 ล้านบาท (ณ กลางปี พ.ศ. 2566) พร้อมกันนั้น ยังอยู่ระหว่างการศึกษาโครงสร้างทางการเงิน (Capital Structure) ที่เหมาะสม และหาแนวทางในการจัดหาแหล่งเงินทุนรูปแบบใหม่ๆอีกหลายรูปแบบเพื่อเตรียมพร้อมรับการเติบโตในอนาคต อาทิ การออกหุ้นกู้, หุ้นกู้เพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Bond), หุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุน (Perpetual Bond),กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน, การทำ Asset Monetization เพิ่มโอกาสในการหาพันธมิตรรายใหม่เข้ามาร่วมลงทุนทั้งในธุรกิจที่มีในปัจจุบันและการขยายธุรกิจร่วมกันในอนาคตและการระดมทุนของบริษัทลูกในรูปแบบ IPO ซึ่งจะเพียงพอในการลงทุนเพื่อการเติบโตในอนาคต “ภายใต้วิสัยทัศน์ของ บี.กริม เพาเวอร์ ที่มุ่งสร้างพลังให้กับสังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี เรามีเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลก และก้าวสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net-Zero Carbon Emissions ภายในปี ค.ศ. 2050 (ปี พ.ศ. 2593)” ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวทิ้งท้าย