หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานสถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์วันที่ 18 – 22 พ.ย. 67 และแนวโน้มในสัปดาห์วันที่ 25 – 29 พ.ย. 67 โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาเฉลี่ยปรับสูงขึ้น ทั้งนี้ ตลาดจับตาสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนเสี่ยงยกระดับเป็นสงครามโลก หลังสหรัฐฯ และอังกฤษอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธได้
วันที่ 23 พ.ย. 67 รมว.กระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส นาย Jean-Noël Barrot แถลงอนุญาตให้ยูเครนสามารถใช้ขีปนาวุธ SCALP-EG ของฝรั่งเศส (ระยะการยิง 500 กม.) โจมตีรัสเซียเพื่อป้องกันตัวได้ หลังรัฐบาลสหรัฐฯอนุญาตให้ใช้ขีปนาวุธ Army Tactical Missile System (ATACMS) ซึ่งมีระยะการยิง 300 กม. และรัฐบาลอังกฤษอนุญาตให้ใช้ขีปนาวุธ Strom Shadow ซึ่งมีระยะการยิง 250 กม. ไปก่อนหน้านี้
วันที่ 21 พ.ย. 67 ประธานาธิบดีรัสเซีย นาย Vladimir Putin แถลงว่ารัสเซียตอบโต้ยูเครนด้วยขีปนาวุธ Oreshnik ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยปานกลาง (Intermediate-Range Ballistic Missile – IRBM) ระยะการยิง 3,000 – 5,500 กม. โจมตีเมือง Dnipro ประเทศยูเครน นอกจากนี้ นาย Putin ยังกล่าวตักเตือนชาติตะวันตกว่าการอนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธของตนได้นั้นจะถือว่าชาติตะวันตกเป็นคู่ขัดแย้งกับรัสเซียโดยตรง และอาจทำให้สงครามระดับภูมิภาคขยายตัวเป็นสงครามโลกได้
ด้านธนาคารแห่งชาติของจีน(People’s Bank of China: PBOC) ประกาศเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา ให้คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้าชั้นดี (Loan Prime Rate: LPR) ระยะเวลา 1 ปีอยู่ที่ 3.1% และ 5 ปีอยู่ที่ 3.6%
วาณิชธนกิจ Goldman Sachs คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบ Brent เฉลี่ยปี 2568 จะอยู่ที่ 76 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล (คงเดิมจากคาดการณ์ในเดือน ต.ค. 67) โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 70-85 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล หลังคาดว่าอุปทานน้ำมันดิบโลกในปี 2568 จะมากกว่าอุปสงค์ (Surplus) อยู่ที่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน
