ไทยออยล์ ประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบในปี 2563 ทรงตัวอยู่ระหว่าง 58-63 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เมื่อเทียบกับปี 2562 ส่วนแผนลงทุน 5 ปี(2562-2566)วงเงิน 4.83 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ใช้ลงทุน โครงการพลังงานสะอาด(Clean Fuel Project :CFP)CFP) ปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นและขยายกำลังการกลั่นน้ำมันจาก 2.75 แสนบาร์เรลต่อวัน เป็น 4 แสนบาร์เรลต่อวัน
นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ คนใหม่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน) หรือTOP เปิดเผยว่า ไทยออยล์ประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบในปี 2563 อยู่ระหว่าง 58-63 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2562 แม้คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันในปี 2563 จะเติบโต 1.0-1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่การผลิตน้ำมันจากสหรัฐฯและยุโรปก็เพิ่มขึ้น 1.3 และ 0.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนธุรกิจการกลั่นน้ำมันมีแนวโน้มดีขึ้นจากเกณฑ์ใหม่ขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ที่กำหนดให้เรือเดินสมุทรต้องใช้น้ำมันเตากำมะถันต่ำ 0.5% จากเดิม 3.5% มีผลตั้งแต่ต้นปี 1 ม.ค. 2563 ซึ่งจะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันดีเซลและน้ำมันกำมะถันต่ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประมาณ 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับปี 2562
สำหรับแผนลงทุน 5 ปี (ปี 2562-2566) วงเงินประมาณ 4.83 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่ใช้ลงทุนในโครงการพลังงานสะอาด(Clean Fuel Project :CFP) โดยภายในปี 2562 นี้ จะใช้ 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ และปี 2563 จะใช้ 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนปีต่อ ๆ ไป จะทยอยใช้ประมาณ 600-700 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อปี โดยเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นและขยายกำลังการกลั่นน้ำมันจากเดิม 2.75 แสนบาร์เรลต่อวัน เป็น 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ที่จะแล้วเสร็จพร้อมเดินเครื่องในไตรมาส 1ปี 2566