กองทุนน้ำมันฯอุดหนุนดีเซลแตะ1บาทต่อลิตรแล้ว ซีอีโอ ปตท. ยอมรับค่าการตลาดดีเซล ต่ำกว่า 1.50 บาทต่อลิตรแล้ว แต่ใช้กำไรจากธุรกิจ Non Oil มาช่วยพยุงไปก่อนชั่วคราว รอกระทรวงพลังงานส่งสัญญาณขยับราคา
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center-ENC ) รายงานว่า บริษัทปตท.น้ำมันและการค้าปลีกจำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR และบริษัทบางจากฯ ได้ประกาศปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้น 0.40 บาทต่อลิตร เว้น E85 เพิ่มขึ้น 0.20 บาทต่อลิตร ส่วน ดีเซล และ ดีเซลพรีเมี่ยม ยังคงราคาเดิม ที่29.89 บาทต่อลิตร และ 32.89 บาทต่อลิตร มีผล 5 ต.ค. 2561 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป
โดยการที่ยังไม่มีการรปรับขึ้นราคาดีเซลครั้งนี้เนื่องจากผู้ค้าน้ำมันยอมได้รับค่าการตลาดที่ลดลง และส่วนหนึ่งเป็นการนำเงินจากกองทุนน้ำมันเข้ามาชดเชย โดย ประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. ฉบับที่ 64/2561 ลงวันที่ 4 ต.ค 2561 ได้ปรับเพิ่มอัตราการชดเชยน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว จากเดิม -0.90 บาทต่อลิตร เป็น -1.00 บาทต่อลิตร มีผลวันที่ 5 ต.ค 2561 ซึ่งเต็มเพดานที่ กบง.เคยมีมติเอาไว้ ทำให้มีเงินไหลออกจากการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงฯ จากการเข้าไปชดเชยราคาไม่น้อยกว่า 60 ล้านบาทต่อวันแล้ว
ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2561 กองทุนน้ำมันฯ เหลือเงินสุทธิ 25,142 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน 29,212 และบัญชี LPG ติดลบ 4,071 ล้านบาท
ด้าน นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากปัญหาสหรัฐฯเตรียมคว่ำบาตรทางการค้ากับอิหร่านในเดือนพ.ย. 2561 นี้ โดย ปตท.คาดว่าราคาน้ำมันปี 2561 นี้จะอยู่ระดับ 80-90 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ขณะที่ค่าการตลาด ปตท. ปัจจุบันอยู่ระดับต่ำกว่า 1.50 บาทต่อลิตร แต่เนื่องจาก ปตท.ยังมีรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-oil) มาช่วยเสริมทำให้การค้าน้ำมันยังพอดำเนินต่อไปได้ โดย แม้ค่าการตลาดจะต่ำแต่ปตท. ยังต้องช่วยดูแลภาพรวมของสังคมในช่วงนี้เป็นพิเศษต่อไปก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีพลังงาน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า หากราคาน้ำมันดิบโลกดูไบขยับไปถึง 90-100 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลในระยะสั้น กระทรวงพลังงานจะต้องกลับมาพิจารณามาตรการใหม่ที่เหมาะสม ซึ่งอาจขยับราคาน้ำมันดีเซลเกิน 30 บาทต่อลิตรก็เป็นได้