คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) มีมติวันนี้ ควักเงินกองทุนน้ำมันฯรวดเดียว 3.13 บาทต่อลิตร ชดเชยดีเซลรวม 10.84 บาทต่อลิตร ป้องกันผู้ค้าน้ำมันขยับราคาเกิน 30 บาทต่อลิตร ส่งผลกองทุนน้ำมันฯ ติดลบสูงสุดนับจากปี 2564 แตะระดับ 5 หมื่นล้านบาทแล้ว เหตุผู้ค้าพยุงราคาดีเซลช่วงสงกรานต์ ส่งผลค่าการตลาดติดลบถึง 1.72 บาทต่อลิตร จับตาราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินปรับขึ้นหลังสงกรานต์ เนื่องจากราคาน้ำมันโลกยังพุ่งเกิน 100 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center-ENC) รายงานว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) ในวันที่ 18 เม.ย. 2565 มีมติควักเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงรวดเดียว 3.13 บาทต่อลิตร เพื่อนำมาชดเชยราคาดีเซลรวม 10.84 บาทต่อลิตร จากก่อนเทศกาลสงกรานต์(12 เม.ย. 2565)ชดเชยอยู่ 7.35 บาทต่อลิตร ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ราคาดีเซลทะลุเกิน 30 บาทต่อลิตรไปจนถึงสิ้นเดือน เม.ย. 2565 นี้
ทั้งนี้การชดเชยราคาดังกล่าวเกิดจาก ราคาน้ำมันโลกขยับขึ้นต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จากปัญหาการสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน แต่ค่ายน้ำมันต่างช่วยตรึงราคาจำหน่ายเอาไว้เท่าเดิม ส่งผลค่าการตลาดดีเซลของผู้ค้าน้ำมัน ณ วันที่ 18 เม.ย. 2565 ติดลบสูงถึง 1.72 บาทต่อลิตร จากค่าการตลาดที่ควรได้ 1.5-2 บาทต่อลิตร ดังนั้นจึงต้องชดเชยค่าการตลาดให้กับผู้ค้าน้ำมันเพื่อพยุงราคาดีเซลไว้ที่ระดับ 29.94 บาทต่อไป
อย่างไรก็ตามจากข้อมูลของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) ณ วันที่ 18 เม.ย. 2565 ได้อ้างอิงค่าการตลาดที่ควรได้ระหว่างวันที่ 1-18 เม.ย. 2565 ควรอยู่ที่ 1.29 บาทต่อลิตร แต่ค่าการตลาดจริงกลับติดลบ 1.72 บาทต่อลิตร ส่วนค่าการตลาดกลุ่มเบนซินอยู่ระดับ 1.5-2 บาทต่อลิตร ซึ่งสวนทางกับราคาน้ำมันโลกที่ยังทรงตัวเกินระดับ 100 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
โดย ณ วันที่ 18 เม.ย. 2565 เวลาประมาณ 14.16 น. ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 104.82 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.12 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 106.89 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 0.06 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) อยู่ที่ 111.81 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.11 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
สำหรับการเพิ่มเงินชดเชยราคาดีเซลดังกล่าวส่งผลให้สถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบแตะระดับ 50,614 ล้านบาท ( ณ วันที่ 17 เม.ย. 2565) ถือว่าติดลบสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา เนื่องจากต้องนำเงินไปชดเชยราคาน้ำมันดีเซลและก๊าซหุงต้ม(LPG) ทำให้บัญชีน้ำมันติดลบ 19,332 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 31,282 ล้านบาท (กรอบวงเงินสำหรับชดเชย LPG สูงสุดไม่เกิน 33,000 ล้านบาท )
อย่างไรก็ตามหากราคาน้ำมันโลกยังทรงตัวระดับสูงในวันที่ 18 เม.ย. 2565 ผู้ค้าน้ำมันอาจพิจารณาปรับขึ้นราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินได้ เนื่องจากค่าการตลาดยังนับว่าต่ำอยู่ ส่วนดีเซลจะไม่ปรับขึ้นเนื่องจากกองทุนน้ำมันฯ ได้นำเงินไปพยุงราคาไว้แล้ว