การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) คาดต้องใช้เงินอีกประมาณ 1,769 ล้านบาทซื้อน้ำมันปาล์มดิบ 101,700 ตันเพื่อผลิตไฟฟ้า ตามมติครม.โดยจะประกาศผลผู้ชนะประมูล ในวันที่ 5 พ.ย. 2562 นี้ และทยอยส่งมอบน้ำมันปาล์มดิบได้ประมาณ 2 ธ.ค. 2562 ในขณะที่ภาครัฐกำลังพิจารณานำงบประมาณกลางมาจ่ายคืนส่วนต่างต้นทุนที่เพิ่มขึ้นให้กับกฟผ.
นายธวัชชัย จักรไพศาล รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยความคืบหน้าการนำน้ำมันปาล์มดิบมาผลิตไฟฟ้าว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่27 ส.ค. 2562 มีมติให้ กฟผ.เร่งซื้อน้ำมันปาล์มดิบ(CPO) อีก 1.3 แสนตัน ให้ครบตามเป้าหมาย 2 แสนตัน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรดูดซับน้ำมันปาล์มที่ล้นตลาดและช่วยดันราคาผลปาล์มให้สูงขึ้น นั้น เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2562 กฟผ.ได้ประกาศให้ผู้ประกอบการมายื่นข้อเสนอด้านราคา CPO ซึ่งราคาแนะนำอยู่ที่ 17.50 บาทต่อกิโลกรัม และมีผู้ผ่านเกณฑ์ทั้งด้านคุณสมบัติและราคาจำนวน 17 ราย จากทั้งหมด 26 ราย รวมเป็นปริมาณน้ำมันปาล์มทั้งสิ้น 101,700 ตัน
ทั้งนี้ กฟผ.คาดว่าจะประกาศผลผู้ชนะการแข่งขันราคาได้ในวันที่ 5 พ.ย. 2562 นี้ และจะลงนามสัญญาซื้อขายในวันที่ 20-26 พ.ย.นี้ จากนั้นจะทยอยส่งมอบน้ำมันปาล์มดิบได้ประมาณ 2 ธ.ค. 2562 และช่วงกลางเดือนธ.ค.2562 คาดว่าจะนำน้ำมันปาล์มดังกล่าวมาใช้ผลิตไฟฟ้าได้ และใช้หมดในเดือนเม.ย. 2563
ทั้งนี้ กฟผ.คาดว่าจะต้องใช้เงินสำหรับรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ 101,700 ตัน มาผลิตไฟฟ้ารวมประมาณ 1,769 ล้านบาท(คำนวนจากราคารับซื้อเฉลี่ยที่ 17.40 บาทต่อกิโลกรัม) ซึ่งขณะนี้ภาครัฐอยู่ระหว่างการพิจารณานำงบกลางของภาครัฐมาคืนให้ กฟผ.
อย่างไรก็ตามหลังจากเดินหน้าเปิดรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบในครั้งนี้แล้ว ยังเหลือปริมาณอีก 32,050 ตัน ถึงจะครบตามเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการให้รับซื้อทั้งหมด 2 แสนตัน ซึ่งในส่วนนี้ต้องรอภาครัฐพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป