กฟผ.คาดใช้วงเงินกว่า 2,880 ล้านบาทรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ1.6แสนตันเพื่อเผาเป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าบางปะกง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตแพงกว่าปกติ 1,354 ล้านบาท โดยรัฐบาลและกฟผ,จะร่วมกันรับภาระเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้า เริ่มกระบวนการรับซื้อตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 เป็นต้นไป ในราคา 18 บาทต่อกิโลกรัม ณ ท่าเทียบเรือโรงไฟฟ้าบางปะกง และใช้ในการผลิตไฟฟ้าช่วงระหว่างเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2562
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน(Energy News Center-ENC) รายงานว่า เมื่อวันที่21 พ.ย.2561 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ปลัดกระทรวงพลังงาน และผู้บริหารการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เกี่ยวกับ มาตรการ ปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ ตามมติของคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี โดย ระบุว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)จะต้องใช้วงเงิน 2,880 ล้านบาท สำหรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจำนวน 1.6 แสนตันมาใช้เป็นเชื้อเพลิง ในโรงไฟฟ้าบางปะกง ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 เป็นต้นไป เพื่อเริ่มผลิตไฟฟ้าตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2562 ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าแพงกว่าปกติ 1,354 ล้านบาท
ทั้งนี้ต้นทุนส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นนั้น รัฐบาลจะใช้งบประมาณกลางจำนวน525 ล้านบาท ชดเชยเงินให้กับ กฟผ. ส่วนที่เหลืออีก 829 ล้านบาท ทาง กฟผ.จะไปทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเพื่อให้ใช้ ในรูปแบบรายจ่ายเพื่อสังคมของ กฟผ.เอง มาดำเนินการไปก่อน จากนั้นภาครัฐจะจัดคืนให้ภายหลัง ซึ่งยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อเงินเดือน โบนัส ของพนักงาน กฟผ.แต่อย่างใด และผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าที่จัดเก็บกับผู้ใช้ไฟ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กฟผ.อยู่ระหว่างปรับปรุงเครื่องจักรของโรงไฟฟ้าบางปะกง เพื่อรองรับการนำน้ำมันปาล์มมาผลิตไฟฟ้า จากเดิมที่โรงไฟฟ้าบางปะกงเป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงเท่านั้น โดยคาดว่าจะปรับปรุงเครื่องจักรเสร็จ 15 ธ.ค. 2561 สำหรับราคาน้ำมันปาล์มดิบที่จะรับซื้อนั้นจะอยู่ที่ ราคา 18 บาท/กก. ณ ท่าเทียบเรือโรงไฟฟ้าบางปะกง โดยจะร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จัดหาจากเกษตรกรผู้ผลิตที่ลานเท และโรงสกัดที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในพื้นที่แหล่งผลิตที่สำคัญ เช่น กระบี่ สุราษฎร์ธานี ชุมพร เป็นต้น
นายธวัชชัย จักรไพศาล รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) กล่าวว่า โรงไฟฟ้าบางปะกง หน่วยที่จะนำน้ำมันปาล์มดิบมาใช้เผาร่วมกับก๊าซธรรมชาตินั้น จะมีกำลังผลิตไฟฟ้าอยู่ 280 เมกะวัตต์ โดยหากปรับปรุงเครื่องจักรแล้วเสร็จ จะส่งผลให้เกิดการผลิตไฟฟ้าจากน้ำมันปาล์มได้ 144 เมกะวัตต์ และผลิตไฟฟ้าจากก๊าซฯได้ 136 เมกะวัตต์