คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน กำหนดเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบไม่เกินปี 2565 โดยมอบคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) จัดทำรายละเอียดภายใน 2 เดือนจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เผยแผนการลงทุนเบื้องต้น 3 แนวทาง โดยอาจใช้เงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานมาสนับสนุน การเปิดทางให้บริษัทลูก 3 การไฟฟ้าร่วมลงทุนกับชุมชน และให้ภาคเอกชนเข้าร่วมลงทุนเพื่อช่วยบริหารจัดการโรงไฟฟ้าต่อไป
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า ที่ประชุม กพช. เห็นชอบโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่ผ่านมา โดยกำหนดให้มีการสร้างโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบไม่เกินปี 2565 ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าให้ชุมชน เกิดความมั่นคงไฟฟ้า และทำให้ชุมชนได้เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้า สามารถผลิตและขายไฟฟ้าได้เอง ทำให้เกิดการสร้างรายได้และพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) จะมาพิจารณาในรายละเอียดการดำเนินโครงการดังกล่าว โดยในส่วนการลงทุนนั้น เบื้องต้นจะพิจารณาด้านการลงทุนในหลายกรณี เช่น ควรนำเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานมาสนับสนุนอย่างไร หรืออาจให้บริษัทลูกของ 3 การไฟฟ้า (การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ., การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA และการไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน.) มาร่วมลงทุนกับชุมชน และอาจพิจารณาว่าควรให้เอกชน เข้ามาร่วมลงทุนเพื่อช่วยด้านการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าให้เกิดความยั่งยืนต่อไป
พร้อมกันนี้จะพิจารณาว่าควรสร้างโรงไฟฟ้าชุมชนในพื้นที่ใด ควรมีปริมาณไฟฟ้ากี่เมกะวัตต์ และแบ่งโรงไฟฟ้าเป็นกี่ประเภท เป็นต้น ซึ่งที่ประชุม กบง. จะเร่งดำเนินการกำหนดรายละเอียดให้เสร็จภายใน 1-2 เดือนจากนี้