ราคาน้ำมันตลาดโลกขาลง กบน.รีดเงินผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินส่งเข้ากองทุนน้ำมันรวมกว่า 4 บาทต่อลิตรแล้ว ส่วนดีเซล ถูกเก็บเพิ่มเป็น 1.62 บาทต่อลิตร

314
- Advertisment-

คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เร่งเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันคืนกองทุนฯ หลังราคาน้ำมันโลกปรับลดลง สั่งผู้ใช้ดีเซลจ่ายเพิ่มอีก 62 สตางค์ต่อลิตร และเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ เพิ่มอีก 40 สตางค์ต่อลิตร ด้านผู้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 อ่วม ต้องจ่ายเข้ากองทุนฯ กว่า 4 บาทต่อลิตร ขณะที่ดีเซลจ่ายเข้า 1.62 บาทต่อลิตร ตอกย้ำด้วยค่าการตลาดน้ำมันที่พุ่งสูงเกือบ 4 บาทต่อลิตร ดันราคาจำหน่ายน้ำมันทรงตัวระดับสูง  

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2567 คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้มีมติเรียกเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ และกลุ่มดีเซล เพื่อส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์เรียกเก็บเพิ่มขึ้นอีก 40 สตางค์ต่อลิตร และกลุ่มดีเซลเรียกเก็บเพิ่มขึ้น 62 สตางค์ต่อลิตร

ทั้งนี้อัตราใหม่ที่ผู้ใช้น้ำมันต้องจ่ายเข้ากองทุนฯ เป็นดังนี้ ผู้ใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 95 ต้องจ่ายเข้ากองทุนฯ 10.68 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 จ่าย 4.10 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ E20 จ่าย 2.11 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ E85 จ่าย 1.46 บาทต่อลิตร ส่วนผู้ใช้ดีเซลธรรมดาและดีเซล B20 จ่าย 1.62 บาทต่อลิตร ส่วนผู้ใช้ดีเซลเกรดพรีเมียมจ่าย 3.12 บาทต่อลิตร

- Advertisment -

โดยการเรียกเก็บเงินเพื่อส่งเข้ากองทุนฯ ในครั้งนี้ถือว่าเป็นอัตราที่สูงมากสำหรับผู้ใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 95 ที่เรียกเก็บ 10.68 บาทต่อลิตร และผู้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 ที่เรียกเก็บ 4.10 บาทต่อลิตร ซึ่งสถิติที่กองทุนฯ เคยเรียกเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันเพื่อส่งเข้ากองทุนฯ สูงสุดในรอบปี 2567 นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา โดยเรียกเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 95 ถึง 10.78 บาทต่อลิตร และผู้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 เรียกเก็บ 4.20 บาทต่อลิตร ขณะเดียวกันกองทุนฯ ก็เลิกชดเชยราคาดีเซลตั้งแต่ 6 ส.ค. 2567 และหันมาเรียกเก็บเงินผู้ใช้ดีเซลส่งเข้ากองทุนฯ เช่นกัน

สำหรับการเรียกเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นในครั้งนี้ เนื่องจากกองทุนฯ ต้องเร่งดำเนินการให้มีเงินไหลเข้ากองทุนฯ มากขึ้นโดยเร็ว เพื่อชำระหนี้เงินต้นที่กู้ยืมมาทั้งสิ้น 105,333 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มทยอยจ่ายหนี้เงินต้นครั้งแรกในเดือน พ.ย. 2567 นี้

โดยสถานะล่าสุดของกองทุนฯ ณ วันที่ 18 ส.ค. 2567 ที่รายงานโดยสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) พบว่า กองทุนฯ ยังคงติดลบรวม -109,361 ล้านบาท ซึ่งมาจากบัญชีน้ำมันติดลบรวม -62,063 ล้านบาท และมาจากบัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบรวม -47,588 ล้านบาท

ขณะที่ผู้ค้าน้ำมันได้ปรับค่าการตลาดน้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้นอีก โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้รายงานค่าการตลาดน้ำมัน ณ วันที่ 22 ส.ค. 2567 พบว่า ค่าการตลาดน้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 อยู่ที่ 4.46 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 3.85 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 3.93 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 3.81 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 2.11 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซล B7 อยู่ที่ 2 บาทต่อลิตร และดีเซล B20 อยู่ที่ 1.02 บาทต่อลิตร โดยเฉลี่ยค่าการตลาดระหว่างวันที่ 1-22 ส.ค. 2567 อยู่ที่ 2.55 บาทต่อลิตร (จากค่าการตลาดที่ควรได้ที่ 1.50-2 บาทต่อลิตร)

อย่างไรก็ตามทั้งการเรียกเก็บเงินส่งเข้ากองทุนฯ และการปรับค่าการตลาดน้ำมันเพิ่มขึ้นในครั้งนี้ เนื่องมาจากราคาน้ำมันโลกปรับลดลง เนื่องจากตลาดคลายความกังวลต่อการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน และรัสเซียกับยูเครน ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศยังทรงตัวระดับสูง

โดยเบนซิน ออกเทน 95 ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 44.54 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 36.65 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 36.28 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 34.54 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 34.29 บาทต่อลิตร และดีเซลอยู่ที่ 32.94 บาทต่อลิตร

สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกล่าสุด ณ วันที่ 22 ส.ค. 2567 เวลาประมาณ 15.00 น. ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 76.12 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 0.41 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 71.75 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 0.18 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล  และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) อยู่ที่ 75.97 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 0.08 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

Advertisment