คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) ปรับลดการชดเชยราคาดีเซล เหลือ 7.77 บาทต่อลิตร จากเคยชดเชยสูงสุด 14.01 บาทต่อลิตร เหตุราคาน้ำมันโลกเริ่มปรับลดลงเล็กน้อยแต่ยังผันผวน ส่งผลค่าการตลาดผู้ค้าน้ำมันขยับลงจาก 5.58 บาทต่อลิตร เหลือ 3.37 บาทต่อลิตร จับตากองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของบัญชีน้ำมันติดลบ 1,243 ล้านบาทเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ชดเชยดีเซลมา ส่งผลให้ทุกบัญชีในกองทุนฯ เข้าสู่ภาวะติดลบทั้งหมด โดยสุทธิติดลบเกือบ 3 หมื่นล้านบาท
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center-ENC) รายงานว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2565 มีมติให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปรับลดอัตราชดเชยราคาน้ำมันดีเซลลงจาก 11.95 บาทต่อลิตร ลดเหลือ 7.77 บาทต่อลิตร หรือปรับลดลงรวดเดียว 4.18 บาทต่อลิตร เนื่องจากราคาน้ำมันโลกเริ่มปรับลดราคาลงนิดหน่อย
ทั้งนี้การปรับลดการชดเชยราคาดีเซลดังกล่าว ถือเป็นการปรับลดเป็นครั้งที่ 2 นับจาก กองทุนฯ นำเงินไปชดเชยสูงสุดถึง 14.01 บาทต่อลิตร เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2565 และจากนั้นวันที่ 11 มี.ค. 2565 ได้เริ่มปรับลดการชดเชยลงมาอยู่ที่ 11.95 บาทต่อลิตร และวันที่ 14 มี.ค. 2565 ลดเหลือ 7.77 บาทต่อลิตร
สำหรับราคาน้ำมันโลกยังคงผันผวน โดยล่าสุด วันที่ 15 มี.ค. 2565 เวลาประมาณ 14.00 น. น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 112.59 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ยังคงปรับขึ้นมา 2.17% ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ลดลงมาอยู่ที่ 98.05 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล หรือลดลง 4.82% และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ลดลงมาอยู่ที่ 101.55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หรือลดลง 5%
ดังนั้นทั้งการปรับลดราคาน้ำมันโลกและลดการชดเชยราคาดีเซลลง ส่งผลให้ค่าการตลาดผู้ค้าน้ำมันเริ่มปรับลดลง โดยโครงสร้างราคาอ้างอิงที่จัดทำโดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ. เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2565 ค่าการตลาดดีเซลของผู้ค้าน้ำมันมาอยู่ระดับ 3.37 บาทต่อลิตร จากวันที่ 14 มี.ค. 2565 ค่าการตลาดดีเซลสูงถึง 5.58 บาทต่อลิตร ส่วนค่าการตลาดกลุ่มเบนซินอยู่ที่ 2-3 บาทต่อลิตร
อย่างไรก็ตามแม้การปรับลดการชดเชยดังกล่าวจะลดภาระกองทุนฯ ได้บางส่วน แต่สถานะกองทุนฯ ก็ยังประสบปัญหาเงินไหลออกต่อเนื่อง 4,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งมาจากการชดเชยราคาดีเซลและก๊าซหุงต้ม(LPG) และล่าสุดสถานะกองทุนน้ำมันฯ ประสบปัญหาเงินไหลออกจากทุกบัญชีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มชดเชยราคาดีเซลตั้งแต่ต้นปี 2565 เป็นต้นมา
โดย ณ วันที่ 13 มี.ค. 2565 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ติดลบรวม 29,336 ล้านบาท โดยบัญชีน้ำมันก็เกิดภาวะเงินไหลออกเป็นครั้งแรก ติดลบ 1,243 ล้านบาท (จากเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2565 ยังมีเงินไหลเข้า 3,459 ล้านบาท) และบัญชี LPG ติดลบ 28,093 ล้านบาท ซึ่งใกล้เต็มกรอบวงเงินที่ กบน.อนุมัติให้ใช้ชดเชย LPG ได้สูงสุดแค่ 29,000 ล้านบาทด้วย
อย่างไรก็ตามในวันที่ 1 เม.ย. 2565 กระทรวงพลังงานจะลดการชดเชยราคา LPG ลง จากเดิมตรึงราคาจำหน่ายไว้ที่ 318 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ก็จะปรับราคาขึ้นกิโลกรัมละ 1 บาท หรือ ปรับขึ้น 15 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม มาอยู่ที่ราคา 333 บาท ก็จะช่วยลดภาระกองทุนน้ำมันฯลงได้ส่วนหนึ่ง และต้องติดตามว่าเงินกู้ 2 หมื่นล้านบาทแรกจะเข้าสู่กองทุนฯได้ภายในเดือน เม.ย. 2565 นี้ตามที่ กบน.คาดการณ์ได้หรือไม่