อนุฯ กกพ.สรุปผลประชุมวันนี้ ลดค่าไฟฟ้าเดือน พ.ค.-ส.ค.66 ลง 7 ส.ต.ต่อหน่วย จาก 4.77 บาทต่อหน่วย เหลือ 4.70 บาทต่อหน่วย หลัง กฟผ.ยอมให้ขยายระยะเวลาคืนหนี้
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน( Energy News Center-ENC ) รายงานว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลการปรับอัตราค่าบริการไฟฟ้า ภายใต้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ซึ่งประชุมวันนี้ ( 21 เม.ย. 2566) มีมติเห็นชอบปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟที งวดเดือน พ.ค.-ส.ค.2566 ลง อีก 7.08 สตางค์ต่อหน่วย จาก 98.27 สตางค์ต่อหน่วย เหลือ 91.19 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าโดยเฉลี่ยปรับลดลงจากเดิมที่อนุมัติไว้ 4.77 บาทต่อหน่วย เหลือ 4.70 บาทต่อหน่วย
โดยที่ผ่านมาคณะกรรมการ กกพ.มีมติเห็นชอบ ให้ค่าเอฟทีงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.2566 เป็นการคำนวณโดยประมาณการต้นทุนเดือน พ.ค.- ส.ค. 2566 ล่วงหน้าว่าจะอยู่ที่ 63.37 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งเมื่อรวมกับเงินที่ทยอยเรียกเก็บเพื่อชดเชยต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงคาดว่าจะคงเหลือจากเดือน ม.ค. – เม.ย. 2566 จำนวน 136,686 ล้านบาท บางส่วน โดยแบ่งเป็น 6 งวดๆ ละ 22,781 ล้านบาทหรืองวดละ 34.90 สตางค์ต่อหน่วยเพื่อให้ กฟผ. ได้รับเงินคืนครบภายใน 2 ปี (เม.ย. 2568) โดย กฟผ. จะต้องบริหารภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงแทนประชาชนจำนวน 113,905 ล้านบาท ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4.77 บาทต่อหน่วย แต่เมื่อ ล่าสุด กฟผ.มีหนังสือถึง กกพ. ให้ขยายระยะเวลาคืนหนี้ให้ กฟผ.ออกไปยาวนานขึ้น ทำให้สามารถลดค่าไฟฟ้าลงได้อีก 7.08 สตางค์ต่อหน่วย
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอในส่วนของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. ที่เรียกร้องให้ปรับลดค่าไฟฟ้าเดือน พ.ค.-ส.ค.2566 ลงให้ต่ำกว่า 4.40 บาทต่อหน่วย โดยที่ให้ตัดส่วนที่จะต้องชำระคืนหนี้ให้ กฟผ. ออกไปก่อนนั้น ยังไม่มีการทำหนังสืออย่างเป็นทางการมาถึงคณะอนุฯ ที่ประชุมคณะอนุฯ จึงยังไม่ได้พิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นผู้สมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 2 พรรครวมไทยสร้างชาติ จะมีการแถลงข่าวเรื่องการปรับลดค่าไฟฟ้า ดังกล่าวในวันจันทร์ ที่ 24 เม.ย.2566 นี้ที่ทำเนียบรัฐบาล