การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(PEA)และการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.)ยืนยัน ไม่จ่ายค่าไฟ ช่วงโควิด-19 ก็ไม่ตัดไฟ แนะประชาชนรอ ให้หน่วยงานการไฟฟ้าปรับระบบให้มีความพร้อมตามมาตรการเยียวยาของภาครัฐในวันที่ 8 และ 12 พ.ค.นี้ ก่อน ค่อยจ่าย ส่วนผู้ที่จ่ายค่าไฟไปก่อนหน้านี้จะเริ่มคืนส่วนลดโดยหักจากค่าไฟฟ้าตั้งแต่เดือนมิ.ย.2563 เป็นต้นไป
นายวิโรจน์ บัวคลี่ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(PEA) และในฐานะโฆษก PEA เปิดเผยว่า PEA จะปรับระบบบิลค่าไฟฟ้าที่รวมส่วนลดจาก “มาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 เพิ่มเติม” ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. 2563 ดังนั้นแนะนำให้ประชาชนรอชำระค่าไฟฟ้าได้ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. 2563 เป็นต้นไป เพื่อจะได้จ่ายค่าไฟฟ้าในจำนวนที่มีการให้ส่วนลดแล้ว รวมถึงผู้ที่ยังไม่ได้ชำระค่าไฟฟ้าเดือนมี.ค.-เม.ย.2563 ก็สามารถไปชำระหลังวันที่ 8 พ.ค. 2563 ได้ เนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์รวมถึงระบบชำระเงินของเคาน์เตอร์เซอร์วิส จะปรับอัตราค่าไฟฟ้าของประชาชนที่รวมส่วนลดแล้วเช่นกัน แม้ประชาชนจะมีบิลที่ไม่เห็นส่วนลด แต่เมื่อชำระเงินจะได้รับส่วนลดทันที
ส่วนผู้ที่ชำระค่าไฟฟ้าในรอบบิลเดือน มี.ค.-เม.ย.2563 ไปก่อนวันที่ 8 พ.ค. 2563 ซึ่งเป็นราคาเต็มที่ยังไม่ได้หักส่วนลด ทาง PEA จะคืนส่วนลดให้โดยการหักในบิลค่าไฟฟ้าตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563 เป็นต้นไป เช่น เดือนมี.ค.และเม.ย.2563 ได้ส่วนลดค่าไฟฟ้ารวม 500 บาท ทางการไฟฟ้าจะหักค่าใช้ไฟฟ้าให้ทันที 500 บาทในบิลเดือนมิ.ย.2563 แต่หากประชาชนใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 500 บาท ของส่วนลดดังกล่าว ก็จะไปหักต่อในเดือนถัดไป เป็นต้น
ทั้งนี้ยืนยันว่าบิลค่าไฟฟ้าเดือนพ.ค. 2563 จะไม่มีปัญหาเนื่องจากเป็นบิลที่ออกหลังการปรับระบบหักส่วนลดค่าไฟฟ้าแล้ว ซึ่งประชาชนจะเห็นค่าไฟฟ้าที่แท้จริงที่รวมส่วนลดเรียบร้อยแล้วในบิล
สำหรับผู้ที่ชำระค่าไฟฟ้าผ่านการหักบัญชีธนาคาร ขณะนี้ PEA ได้ให้ธนาคารชะลอการหักบัญชีไว้ก่อนจนกว่าจะปรับระบบเสร็จในวันที่ 11 พ.ค. 2563 ทางธนาคารจึงจะกลับมาหักบัญชีได้
นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) และในฐานะโฆษก กฟน. กล่าวว่า กฟน.จะปรับระบบบิลค่าไฟฟ้าที่รวมส่วนลด ตามมาตรการรัฐ ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค. 2563 ดังนั้นขอให้ประชาชนรอไปชำระค่าไฟฟ้าตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค. 2563 ได้ทุกช่องทาง ซึ่งประชาชนจะได้จ่ายค่าไฟฟ้าตามจริงที่หักส่วนลดค่าไฟฟ้าแล้ว ส่วนผู้ที่ชำระก่อนวันดังกล่าวเต็มจำนวนโดยยังไม่ได้หักส่วนลดนั้น ทาง กฟน.จะคืนส่วนลดให้ในบิลรอบเดือนมิ.ย. 2563 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ยืนยันว่าทั้ง กฟน.และPEA จะไม่มีการตัดไฟฟ้า หรือ ส่งหนังสือแจ้งเตือนชำระค่าไฟฟ้ากรณีชำระค่าไฟฟ้าล่าช้า ไปจนตลอดช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 หรือจนกว่าการไฟฟ้าจะออกประกาศกลับมาเข้าสู่ระบบการตัดไฟฟ้าตามปกติ ซึ่งจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center-ENC) รายงานว่า นอกจากนี้ กฟน.และPEA ได้ชี้แจงเกี่ยวกับมาตรการส่วนลดค่าไฟฟ้าช่วง COVID-19 โดยขอให้ประชาชนดูที่บิลค่าไฟฟ้าเป็นหลัก ว่าใครใช้ไฟฟ้าประเภทใด และเข้าข่ายการได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าแบบใด แทนการดูจากขนาดมิเตอร์
โดยกลุ่มที่ใช้ไฟฟ้าฟรี สังเกตได้จากบิลค่าไฟฟ้า ถ้าเป็น PEA จะระบุเป็นประเภทผู้ใช้ไฟฟ้า 111X และถ้าเป็น กฟน. จะระบุเป็นประเภทผู้ใช้ไฟฟ้า 1.1
ส่วนกลุ่มที่ได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าแบบมีเงื่อนไข ถ้าเป็น PEA จะระบุเป็นประเภทผู้ใช้ไฟฟ้า 112X และ 12X และถ้าเป็นกฟน. จะระบุเป็นประเภทผู้ใช้ไฟฟ้า 1.2 และ 1.3 ซึ่งกลุ่มนี้ให้ยึดค่าไฟฟ้าเดือน ก.พ. 2563 เป็นค่าไฟฟ้าฐาน เงื่อนไขที่ 1. หากใช้ไฟฟ้าน้อยกว่าเดือนก.พ.2563 ให้จ่ายตามจริง เงื่อนไขที่ 2.หากใช้ไม่เกิน 800 หน่วย ให้จ่ายเท่าเดือน ก.พ.2563 เงื่อนไขที่ 3 หากใช้ไฟฟ้าเกิน 800 หน่วยแต่ไม่เกิน 3,000 หน่วย ให้จ่ายเท่าเดือนก.พ. + 50% ของหน่วยส่วนเกินจากเดือน ก.พ.2563 เงื่อนไขที่ 4 หากใช้ไฟฟ้าเกิน 3,000 หน่วย ให้จ่ายเท่าเดือนก.พ.+70% ของหน่วยส่วนเกินจากเดือน ก.พ. 63
อย่างไรก็ตามประชาชนยังได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้า 3% ของค่าไฟฟ้าที่ใช้จริง โดยหักอัตโนมัติในบิลค่าไฟฟ้าแล้ว เป็นเวลา 3 เดือน ระหว่างเดือนเม.ย.-พ.ค.-มิ.ย. 2563 ขณะที่มาตรการส่วนลดค่าไฟฟ้าเพิ่มเติมระยะเวลา 3 เดือน ดังกล่าว ได้เริ่มตั้งแต่เดือน มี.ค.-เม.ย.-พ.ค.2563 ดังนั้นในเดือนมิ.ย. 2563 แม้จะหมดมาตรการส่วนลดค่าไฟฟ้าเพิ่มเติม แต่ประชาชนยังได้ส่วนลดค่าไฟฟ้า 3% อยู่