PEA ENCOM ซึ่งเป็นบริษัทลูกของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ขอระดมทุน 600 ล้านบาท เดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล 2โรงแรก ที่ยะลาและปัตตานี ตามนโยบายโรงไฟฟ้าประชารัฐภายในปีนี้ ขนาดกำลังผลิตโรงละ 3 เมกะวัตต์ คาดผลิตไฟฟ้าเข้าระบบตามกำหนดปี 2563 ส่วนโครงการที่ นราธิวาสยังต้องหาพื้นที่ใหม่ เหตุติดปัญหาการใช้ที่ดิน
นายเขมรัตน์ ศาสตร์ปรีชา รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(PEA ENCOM ) เปิดเผยว่า บริษัทฯยังเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าประชารัฐ สำหรับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้(จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส) โดยความคืบหน้าล่าสุดบริษัทฯอยู่ระหว่างการระดมทุน เพื่อก่อสร้างในพื้นที่ ยะลา และปัตตานี ก่อน ซึ่งคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณแห่งละ 300 ล้านบาท รวมวงเงินประมาณ600 ล้านบาท ขนาดกำลังการผลิตโรงละ 3เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2562 นี้ โดยมีกำหนดขายไฟฟ้าเข้าระบบ(COD) ในปี 2563
ทั้งนี้ทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)ได้เห็นชอบให้บริษัทฯ สร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ ยะลาและปัตตานีแล้ว ส่วนโครงการที่นราธิวาส ขณะนี้ยังติดปัญหาเรื่องการใช้ที่ดิน ดังนั้นอาจต้องกลับมาจัดหาพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่เหมาะสมใหม่อีกครั้ง
นายเขมรัตน์ กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลประชารัฐจะเป็นการร่วมลงทุนระหว่างบริษัทฯ เอกชน และ วิสาหกิจชุมชน ซึ่งจะช่วยให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจ รายได้และไฟฟ้า ให้ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากวิสาหกิจชุมชนเข้ามาร่วมลงทุน ร่วมเป็นเจ้าของ รายได้จึงตกถึงชาวบ้านอย่างแท้จริง
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน(Energy News Center-ENC) รายงานว่า สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าประชารัฐ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ได้ ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2561 ที่ผ่านมา โดย ครม. อนุมัติให้บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม จัดตั้ง หรือร่วมทุนกับบริษัทในเครือ เพื่อดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าประชารัฐ สำหรับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในส่วนของแผนงานผลิตไฟฟ้าชุมชนจากชีวมวล โดยให้บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม ลงทุนในสัดส่วน 40% ของส่วนทุน และภาคเอกชน วิสาหกิจชุมชน ลงทุนในสัดส่วน 60% ของส่วนทุน (วิสาหกิจชุมชนสามารถเข้ามาถือหุ้นได้ไม่เกิน 10%)