OR เปิดจองหุ้นนาน 10 วัน จัดสรรอย่างทั่วถึง ให้รายย่อยได้สิทธิ์ก่อน

1019
- Advertisment-

บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดขายหุ้น IPO เป็นครั้งแรก ให้เวลาจองซื้อ 10 วัน ตั้งแต่ 24 ม.ค. -2 ก.พ. 2564 นานสุดเป็นประวัติการณ์ตลาดหุ้นไทย โดยใช้วิธีจัดสรรหุ้นแบบ Small Lot First หวังกระจายหุ้นให้คนไทยที่สนใจลงทุนได้ทั่วถึงมากที่สุด พร้อมเปิดแผนลงทุน 5 ปี (2564-2568) วงเงิน 74,600 ล้านบาท เพื่อขยายปั๊มให้ได้ 2,500 แห่งในปี 2568 และลงทุนธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในอนาคต ทั้งโรงงานเบเกอรี่ โรงงานผงผสมเครื่องดื่มและศูนย์กระจายสินค้าอัตโนมัติ ช่วยเสริมฐานรายได้ให้ OR แบบครบวงจรมากขึ้น

นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า OR เตรียมเปิดขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก(IPO) โดยเปิดจอง 24 ม.ค. -2 ก.พ. 2564 ซึ่งให้ระยะเวลาจองหุ้น 10 วัน นานสุดเป็นประวัติการณ์ตลาดหุ้นไทย และใช้วิธีจัดสรรหุ้นแบบ Small Lot First เพื่อกระจายหุ้นให้ถึงคนไทยรายย่อยที่สนใจลงทุนให้ได้มากที่สุด โดยมีช่วงราคาเสนอขายอยู่ที่ 16–18 บาทต่อหุ้น

- Advertisment -

ผู้จองซื้อรายย่อย สามารถจองซื้อได้ที่ธนาคารกรุงเทพ กสิกรไทย และกรุงไทย กรุงไทย ที่สำนักงานใหญ่และทุกสาขาทั่วประเทศและผ่านช่องทางออนไลน์ สำหรับผู้ถือหุ้น ปตท. เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้น สามารถจองซื้อได้ที่บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในวันที่ 25-28 ม.ค. 2564 โดยคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้ชื่อย่อหลักทรัพย์ “OR” ในต้นเดือน ก.พ. 2564 นี้

สำหรับธุรกิจสำคัญของ OR มี 3 ส่วน ได้แก่ ธุรกิจน้ำมัน ธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจในต่างประเทศ โดยปัจจุบัน OR มีปั๊มรวมทั้งสิ้น 1,968 สาขา ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ต่อเนื่องมา 23 ปี และมีร้านค้าเครื่องดื่มคาเฟ่ อเมซอน 3,168 สาขา ซึ่งมียอดขายเติบโตต่อเนื่อง โดย 9 เดือนแรกของปี 2563 มียอดขายรวมประมาณ 200 ล้านแก้ว มีคนเข้าร้านประมาณ 3 ล้านคนต่อวัน ส่วนธุรกิจในต่างประเทศนั้น OR มีปั๊มในต่างประเทศรวม 329 แห่ง และจะขยายเพิ่มต่อไป

ส่วนของพันธมิตรทางธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-11 นั้น ขณะนี้ ORและบริษัท CP All อยู่ระหว่างการเจรจาต่อสัญญาการเปิดร้าน 7-11 ในปั๊ม OR ต่อเนื่อง เพราะอีกประมาณ 2 ปีจากนี้จะครบอายุสัญญาเฟส 2 ที่ทำกันไว้แล้ว ซึ่งเชื่อว่าการต่อสัญญาดังกล่าวจะทำให้ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกันและช่วยส่งเสริมการขายซึ่งกันและกันทำให้รายได้สูงขึ้น

สำหรับผลการดำเนินงาน 9 เดือน ของปี 2563 OR มีรายได้จากการขายและให้บริการ 319,308 ล้านบาท โดยมี EBITDA 12,523 ล้านบาท มาจากธุรกิจน้ำมัน 68.7% , ธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่นๆ 25.1% ,ธุรกิจในต่างประเทศ 5.8% และธุรกิจอื่นๆ 0.4% ทำให้มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,869 ล้านบาท

นายพิจินต์ อภิวันทนาพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวว่า OR มีแผนลงทุน 5 ปี ระหว่างปี 2564-2568 วงเงินรวม 74,600 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่องและเปิดโอกาสดำเนินธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในอนาคต โดยแบ่งสัดส่วนการลงทุนสำหรับธุรกิจน้ำมัน 34.6% ค้าปลีก 28.6% ธุรกิจในต่างประเทศ 21.8% และธุรกิจอื่นๆ อีก15%

นางสาวราชสุดา รังสิยากูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลยุทธ์องค์กร นวัตกรรมและความยั่งยืน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวว่า ปัจจุบัน OR มีปั๊มน้ำมันรวม 1,968 แห่ง โดยมีแผนจะขยายเพิ่มอีกปีละ 100 สาขา และกำหนดเป้าหมายให้มีปั๊มทั้งสิ้น 2,500 แห่งในปี 2568 โดยจะเน้นให้ดีลเลอร์เป็นเจ้าของ 80% และเป็นของ OR เองอีก 20%

ส่วนร้าน Café Amazon มีแผนจะขยายสาขาเพิ่มกว่า 2,100 สาขา จากปัจจุบันมีอยู่ 3,168 สาขา เพื่อเสริมธุรกิจน้ำมันของ OR โดยจะเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ 60% ที่เหลือจะเป็นสาขานอกปั๊มของ OR นอกจากนี้มีแผนจะสร้างโรงงานเบเกอรี่ โรงงานผงผสมเครื่องดื่มและศูนย์กระจายสินค้าอัตโนมัติ เพื่อเสริมฐานรายได้ให้OR แบบครบวงจรมากขึ้น ส่วนทิศทางของการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของรัฐบาลนั้น OR ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลง โดยปัจจุบัน OR ได้ตั้งสถานีชาร์จรถ EV ในปั๊มแล้ว 25 แห่ง พร้อมพัฒนาระบบการใช้แอพพลิเคชั่น รองรับข้อมูลการชาร์จไฟฟ้าและเก็บข้อมูลความพึงพอใจของลูกค้าเพื่อพัฒนาปั๊มชาร์จต่อไปในอนาคต

 

 

Advertisment