LONGi ผู้นำด้านเทคโนโลยีและการผลิตเวเฟอร์ เซลล์ และแผงโซลาร์เซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ เปิดตัวแผงโซลาร์เซลล์รุ่น Hi-MO X10 ชูจุดเด่นการผลิตพลังงานที่สูงขึ้น พร้อมความปลอดภัยขั้นสูงสุด และความสวยงามแบบมินิมอล หวังตอบโจทย์ลูกค้าในประเทศไทย และส่งเสริมภาครัฐและเอกชนไทยให้ได้ใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายทาลิสแมน ฮั่ว ผู้อำนวยการด้านการตลาดเชิงกลยุทธ์ ฝ่ายธุรกิจ LONGi Global DG บริษัท LONGi กล่าวในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์แผงโซลาร์เซลล์รุ่น Hi-MO X10 ว่า บริษัทมีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานด้านพลังงานแสงอาทิตย์ทั่วโลก โดยนวัตกรรมล่าสุดนี้ถือเป็นแผงโซลาร์เซลล์ที่มีประสิทธิภาพในการผลิตพลังงานสูงสุดในโลก เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ในระดับเดียวกัน
นวัตกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ พัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีหลักของเซลล์ HPBC 2.0 (Hybrid Passivation Bank Contact รุ่นที่ 2) สามารถตอบสนองความต้องการทุกรูปแบบที่มีความหลากหลายและซับซ้อนของตลาดจัดจำหน่ายแผงโซลาร์เซลล์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งองค์กรที่ใช้แผงโซลาร์รุ่นนี้จะมีจุดคุ้มทุนภายใน 2 ปี และผลิตภัณฑ์มีอายุการใช้งานได้นานถึง 40 ปี
นายณัฐภาส ไทยสีหราช ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กลุ่มธุรกิจ Distributed Generation บริษัท LONGi กล่าวว่า แผงโซลาร์เซลล์รุ่น Hi-MO X10 มีจุดเด่นสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ ประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้ามากที่สุด ความปลอดภัยขั้นสูงสุด และความสวยงามแบบมินิมอล โดยมีกำลังการผลิตสูงสุดถึง 670 วัตต์ และมีประสิทธิภาพที่ 24.8% ทำให้เป็นแผงโซลาร์เซลล์ที่มีประสิทธิภาพการผลิตสูงที่สุดในปัจจุบัน โดยสูงกว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยี TOPCon (Tunnel Oxide Passivated Contact) ที่ใช้กันโดยทั่วไปถึง 30 วัตต์ ขณะที่นวัตกรรมป้องกันการบังแสง (Anti-Shading) สามารถช่วยลดการสูญเสียพลังงานได้มากกว่า 70% ภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการบังเงาหลายรูปแบบ เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ TOPCon อีกทั้งโครงสร้างเทคโนโลยี 0BB ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์ ทำให้กำลังของแผงโซลาร์เซลล์เพิ่มขึ้นได้อีกประมาณ 5 วัตต์
ทั้งนี้ เมื่อใช้ในพื้นที่การติดตั้งที่จำกัด สามารถเพิ่มความสามารถในการติดตั้งได้มากขึ้น มีกำลังไฟฟ้าขาออกสูงขึ้น และสร้างผลกำไรทางเศรษฐกิจมากขึ้น โดยจากผลการจำลองการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ Hi-MO X10 ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก แสดงให้เห็นว่าปริมาณการผลิตพลังงานของ Hi-MO X10 สูงกว่าของ TOPCon ถึง 8.7%
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ยังมอบความปลอดภัยขั้นสูงสุดให้แก่ผู้ใช้งาน จากการออกแบบพิเศษที่ลดการนำไฟฟ้าของ Hi-MO X10 ส่งผลให้สามารถลดอุณหภูมิจุดร้อน (Hot Spot) ที่เกิดจากเงาบังได้เป็นอย่างดี ช่วยป้องกันการเกิดความร้อนสูงเกินไปในบางจุด โดยเมื่อเทียบกับเซลล์ทั่วไป จะสามารถลดอุณหภูมิได้ถึง 28% หรือมากกว่านั้น ดังนั้นจึงลดความเสี่ยงที่จะเกิดการทำงานผิดปกติ และชะลอการเสื่อมสภาพของวัสดุภายในแผงโซลาร์เซลล์ได้อีกด้วย
ขณะเดียวกัน จากการทดสอบการทำงานอย่างละเอียด พบว่าแผงโซลาร์เซลล์รุ่นนี้มีความทนทานต่อรังสี ยูวี ความชื้น และการหมุนเวียนของอุณหภูมิร้อนและเย็นได้ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเซลล์ TOPCon อีกทั้งยังมีคุณสมบัติทนทานต่อแรงกระแทก และการป้องกันการเกิดรอยแตกที่มองไม่เห็น โดยใช้เวเฟอร์ซิลิคอน TaiRay ที่มีความหนาสูง และการเชื่อมขดลวดด้านหลังทั้งหมด ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการป้องกันการเกิดรอยแตกที่มองไม่เห็นได้อย่างครอบคลุมอีกด้วย
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ยังมีจุดเด่นเรื่องดีไซน์ที่เรียบง่ายแบบมินิมอล โดยไม่มีเส้นกริดที่ด้านหน้า และไม่มีบัสบาร์ที่ด้านหลัง ซึ่งนอกจากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเซลล์แล้ว ยังปรับปรุงรูปลักษณ์ของด้านหลังเซลล์ให้ดูดียิ่งขึ้น และสามารถเพิ่มอัตราการผลิตไฟฟ้าจากทั้งสองด้านของเซลล์ได้ ซึ่งจะทำให้มีศักยภาพมากขึ้นสำหรับการพัฒนาเซลล์และแผงโซลาร์เซลล์แบบสองด้านในอนาคต
พร้อมกันนี้ นายณัฐภาส ยังได้แนะนำแอปพลิเคชัน PV Master ที่ออกแบบเพื่อโครงการแผงโซลาร์เซลล์แบบรูฟท็อปโดยเฉพาะ โดยเป็นแอปพลิเคชันแบบครบจบในที่เดียว (One Stop Service Application) และยังสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายบนเว็บไซต์ เหมาะสำหรับออกแบบโครงการ นักพัฒนาโครงการ รวมถึงเจ้าของโครงการ ที่ต้องการประเมินวางแผนการติดตั้งโซลาร์เซลล์และติดตามผลการดำเนินงานของโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยภายในงานเปิดตัว Hi-MO X10 ทางบริษัทได้มอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าสามารถใช้งาน PV Master ได้ฟรีนานถึง 3 เดือนอีกด้วย
–
–