สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดรับฟังความเห็นประชาชนกรณี “การรวมกิจการพลังงานระหว่าง บริษัท พีอี แอลเอ็นจี จำกัด (ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด) กับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)” โดยเปิดรับฟังความเห็นประชาชนและผู้ที่อาจได้รับผลกระทบ ระหว่าง 27 พ.ย.-11 ธ.ค. 2566 นี้
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center-ENC) รายงานว่า นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ได้ลงนามประกาศเปิดรับฟังความเห็นประชาชนระหว่างวันที่ 27 พ.ย. – 11 ธ.ค. 2566 เรื่อง “การรวมกิจการพลังงานของผู้ประกอบกิจการพลังงานระหว่าง บริษัท พีอี แอลเอ็นจี จำกัด (ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด) กับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)”
สำหรับรายละเอียดในประกาศระบุว่า บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการพลังงานตาม พ.ร.บ. กิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ ถนนวิภาวดีรังสิต กทม. ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการเก็บรักษาและแปรสภาพก๊าซธรรมชาติจากของเหลวเป็นก๊าซ เลขที่ กกพ. 01-9/65-002 ซึ่งใช้ได้ถึงวันที่ 6 เม.ย. 2590 และใบอนุญาตประกอบกิจการผลิตไฟฟ้า เลขที่ กกพ.01-1(2)/64-293 ซึ่งใช้ได้ถึงวันที่ 15 ก.ย. 2569 จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)
โดย บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด (โครงการสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว หนองแฟบ) ตั้งอยู่ที่ ต.มาบตาพุด จ.ระยอง มีวัตถุประสงค์เพื่อเก็บรักษาและแปรสภาพก๊าซธรรมชาติจากของเหลวเป็นก๊าซ โดยมีความสามารถของการแปรสภาพก๊าซธรรมชาติจากของเหลวเป็นก๊าซสูงสุดที่ 7.5 ล้านตันต่อปี และผลิตไฟฟ้าด้วยเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติเพื่อใช้ภายในสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว หนองแฟบ ขนาดกำลังการผลิตรวม 27,946 กิโลโวลต์แอมแปร์
ทั้งนี้ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด ต้องการให้บริษัทย่อย คือ บริษัท พีอี แอลเอ็นจี จำกัด รับโอนสิทธิและหน้าที่ในการดำเนินกิจการพลังงานแทน ตามใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงานดังกล่าว และประสงค์จะรวมกิจการกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2564
อย่างไรก็ตาม สำนักงาน กกพ.ได้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้รวมกิจการดังกล่าวแล้ว เห็นว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามระเบียบ กกพ. ว่าด้วยการขอรับใบอนุญาตและการอนุญาตการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2551 และเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบ กกพ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการรวมกิจการและการถือหุ้นไขว้ในกิจการพลังงาน พ.ศ. 2565 ทาง สำนักงาน กกพ. จึงประกาศให้ประชาชน รวมทั้งผู้ที่อาจได้รับผลกระทบ แสดงความเห็นต่อการรวมกิจการดังกล่าวได้ที่ฝ่ายอนุญาตการประกอบกิจการพลังงาน สำนักงาน กกพ. หรือทาง www.erc.or.th ระหว่าง 27 พ.ย.-11 ธ.ค. 2566 นี้