กระทรวงพลังงาน ยืนยันไม่สามารถเปิดประชุม คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ในเดือน มิ.ย. 2566 ได้ เหตุต้องรอรัฐบาลใหม่มาพิจารณาทุกเรื่องที่เกี่ยวกับนโยบายพลังงานเท่านั้น เบื้องต้นต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า 2 กรณี ได้แก่ มาตรการตรึงราคา LPG ที่ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม จะสิ้นสุดมาตรการวันที่ 30 มิ.ย. 2566 จึงมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) รับไปพิจารณาแทน และมาตรการตรึงราคา NGV จะสิ้นสุด 15 มิ.ย. 2566 นี้ ทางกระทรวงพลังงานจะขอความร่วมมือ บอร์ด ปตท. พิจารณาตรึงราคาตามความเหมาะสมต่อไป
แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ยืนยันว่าในเดือน มิ.ย. 2566 นี้ ที่ประชุม กบง.ไม่สามารถจัดการประชุมได้ เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลใหม่ ดังนั้นการประชุมที่เกี่ยวข้องกับด้านนโยบายทั้งหมดจะไม่สามารถดำเนินการได้ ประกอบกับ กบง. มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน ดังนั้นต้องรอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่เข้ามาทำงานก่อนจึงจะสามารถเปิดการประชุมได้
ดังนั้นการที่ไม่สามารถเปิดการประชุม กบง.ได้ ส่งผลให้ทางกระทรวงพลังงาน ต้องมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มีรัฐมนตรีว่าการ (รมว.)กระทรวงพลังงานเป็นประธาน แต่หาก รมว.พลังงานไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ ก็สามารถมอบหมายให้ปลัดกระทรวงพลังงาน ซึ่งทำหน้าที่เป็นรองประธาน กบน. ดำเนินการประชุมแทนได้
โดยที่ประชุม กบน. สามารถพิจารณาราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ที่จะสิ้นสุดมาตรการตรึงราคา 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ในวันที่ 30 มิ.ย. 2566 ได้ เนื่องจากตามกฎหมายกำหนดให้มีหน้าที่ดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมันและ LPG ในประเทศ อย่างไรก็ตามคาดว่า กบน.จะพิจารณาได้ทั้งการปรับขึ้นราคา LPG หรือ การตรึงราคาเดิมต่อไป ซึ่งหากกองทุนฯ มีเงินเพียงพอดูแลราคา LPG ก็เชื่อว่าราคาขายปลีก LPG จะไม่ปรับสูงขึ้นกว่าเดิม
ส่วนราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(NGV) สำหรับรถทั่วไป ที่ตรึงราคาไว้ 17.59 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งจะสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาวันที่ 15 มิ.ย. 2566 นี้ รวมถึง NGV สำหรับรถแท็กซี่ในโครงการ NGV เพื่อลมหายใจเดียวกัน ของ ปตท. ที่ตรึงราคาจำหน่ายไว้ที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม จะสิ้นสุดมาตรการในวันที่ 15 มิ.ย. 2566 เช่นกันนั้น ทางกระทรวงพลังงานเตรียมหารือกับ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) เพื่อขอความร่วมมือตรึงราคา NGV ต่อ เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจไทยเพิ่งจะเริ่มฟื้นตัว แต่อย่างไรก็ตามต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ(บอร์ด) ปตท.ที่จะพิจารณาตามความเหมาะสมต่อไป
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center -ENC) รายงานสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงว่า ณ วันที่ 4 มิ.ย. 2566 กองทุนฯ มีสถานะติดลบสุทธิ 66,276 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 19,900 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 46,376 ล้านบาท และสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) อยู่ระหว่างการทำเรื่องกู้เงินเพิ่มเติมอีก 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้กองทุนฯ กู้เงินจากสถาบันการเงินรวมทั้งสิ้น 7 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาใช้เสริมสภาพคล่องกองทุนฯ สำหรับดูแลราคาน้ำมัน และ LPG ให้ประชาชนต่อไป