คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เตรียมเปิดประชุมสัปดาห์หน้า ทำหน้าที่แทนคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) สรุปราคา LPG หลังสิ้นสุดมาตรการตรึงราคา 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ในวันที่ 30 มิ.ย. 2566 ขณะ กบน. เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2566 มีมติสั่งผู้ใช้ดีเซลส่งเงินเข้ากองทุนฯ เพิ่มเป็น 5.59 บาทต่อลิตร ด้านสถานะกองทุนฯ ติดลบเหลือ -63,376 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center -ENC) รายงานว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มี นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นรองประธาน กบน. เตรียมเปิดประชุมพิจารณาราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ในสัปดาห์หน้า เนื่องจากการตรึงราคา LPG ที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) จะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิ.ย. 2566 นี้
แต่เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีรัฐบาลใหม่ ทาง กบน. ซึ่งมีหน้าที่ดูแลความมั่นคงด้านน้ำมันและ LPG ของประเทศ จึงต้องรับหน้าที่พิจารณาราคา LPG รอบนี้แทน กบง. โดยการพิจารณาราคาจะต้องคำนึงถึงเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีอยู่ ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจว่าจะตรึงราคาเดิมต่อ หรือจะปรับขึ้นตามราคาตลาดโลกต่อไป
อย่างไรก็ตามแม้ในสัปดาห์นี้ กบน.จะเปิดประชุมไปเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2566 แต่ไม่ได้พิจารณาด้านราคา LPG เป็นเพียงการปรับขึ้นเงินที่เก็บจากผู้ใช้น้ำมันดีเซลส่งเข้ากองทุนฯ เพิ่มขึ้นจาก 4.20 บาทต่อลิตร เป็น 5.59 บาทต่อลิตร เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลง และยังไม่ได้มีการพิจารณาปรับลดราคาขายปลีกดีเซลลงด้วย หลังจากก่อนหน้านี้ได้ปรับลดราคาลงไปแล้ว 5 ครั้ง รวม 2.50 บาทต่อลิตร นับตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 2566 เป็นต้นมา ทั้งนี้เนื่องจากต้องการเก็บเงินไว้ให้มากที่สุดเพื่อป้องกันราคาดีเซลดีดกลับมาถึง 5 บาทต่อลิตร หากกระทรวงการคลังกลับมาเก็บภาษีดีเซลเต็มจำนวนกว่า 5 บาทต่อลิตร หลังสิ้นสุดมาตรการลดภาษีดีเซลในวันที่ 20 ก.ค. 2566 นี้
สำหรับสถานะกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุดที่รายงานโดย สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(สกนช.) เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2566 กองทุนฯ ยังคงมีสถานะติดลบ 63,376 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 17,127 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 46,294 ล้านบาท แต่กองทุนฯ ยังมีเงินไหลเข้าทุกวันเกือบ 20 ล้านบาทต่อวัน ส่งผลให้กองทุนฯ ยังมีเงินหมุนเวียนรายวัน ส่วนภาระหนี้เดิมที่ได้นำเงินไปชดเชยราคา LPG และดีเซลในช่วงวิกฤติพลังงานปี 2565 ที่เหลืออยู่ 43,000 ล้านบาท ก็จะดำเนินการกู้เงินจากสถาบันการเงินมาใช้คืนต่อไป
ด้านสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้รายงานค่าการตลาด ณ วันที่ 14 มิ.ย. 2566 โดยค่าการตลาดผู้ค้าน้ำมันดีเซลอยู่ที่ระดับ 2.24 บาทต่อลิตร สูงกว่าที่ กบง. ปรับคืนค่าการตลาดให้ผู้ค้าน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 2 บาทต่อลิตร ส่วนค่าการตลาดกลุ่มเบนซินอยู่ที่ประมาณ 3 บาทต่อลิตร โดยภาพรวมค่าการตลาดตั้งแต่วันที่ 1-14 มิ.ย. 2566 อยู่ที่ 2.47 บาทต่อลิตร
ขณะที่ราคาน้ำมันโลก ณ วันที่ 14 มิ.ย. 2566 เวลาประมาณ 15.30 น. ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 72.41 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 1.98 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 69.76 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น0.34 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) อยู่ที่ 74.78 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.49 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล