กลุ่ม ปตท. ผนึกกำลังรุกธุรกิจน้ำมันเครื่องบินเพื่อสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ดันไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กลุ่ม ปตท. ผนึกกำลัง ผนวกองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย รุกธุรกิจน้ำมันเครื่องบินเพื่อสิ่งแวดล้อม สร้างสังคมเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ขับเคลื่อนเป้าหมาย Net Zero ดันไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
วันนี้ (9 พฤศจิกายน 2565) นายนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการศึกษา พัฒนาและลงทุนผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพแบบยั่งยืน...
ปตท. เล็งลู่ทางขยายขีดความสามารถด้านปิโตรเคมีไปยังซาอุดีอาระเบีย หลังการฟื้นฟูความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศในรอบหลายทศวรรษ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายประสงค์ อินทรหนองไผ่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมงาน Thai-Saudi Investment Forum ซึ่งจัด ณ โรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน กรุงเทพฯ โดยมี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ...
กฟผ.คว้า 12 รางวัลสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมระดับนานาชาติ iENA2022
กฟผ. คว้า 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง และ 6 รางวัลพิเศษรวม 12 รางวัล จากการประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมระดับนานาชาติ “The International Trade Fair-Ideas, Inventions and New Products” (iENA2022) ที่...
เอสโซ่และแผนกทรัพยากรบุคคลของเอ็กซอนโมบิล มอบทุนจัดซื้อเครื่องกรองน้ำและมอบหน้ากากป้องกันแก๊สพิษ ที่ลำปาง
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือเอ็กซอนโมบิลในประเทศไทย ได้จัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งส่งเสริมความปลอดภัยและความมีสุขอนามัยที่ดีของชุมชน โดยได้สนับสนุนทุนจำนวน 30,000 บาท แก่วิทยาลัยเทคนิคลำปาง จังหวัดลำปาง เพื่อเป็นงบประมาณจัดซื้ออุปกรณ์ชุดเครื่องกรองน้ำและเครื่องทำน้ำดื่มใช้งานภายในวิทยาลัย และยังได้มอบหน้ากากป้องกันแก๊สพิษและเครื่องกรองอากาศสำหรับนักดับเพลิง เพื่อใช้งานด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในเขตเทศบาลนครลำปาง จังหวัดลำปาง ด้วย
โดยสำหรับกิจกรรมที่วิทยาลัยเทคนิคลำปาง นอกเหนือจากสนับสนุนการจัดซื้อชุดเครื่องกรองน้ำและเครื่องทำน้ำดื่มให้แล้ว บริษัท เอ็กซอนโมบิล...
ผลประกอบการ 9 เดือน OR ยังมีกำไรสุทธิ 1.1 หมื่นล้าน โต 21.9 %
บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เผยผลการดำเนินงาน 9 เดือน ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 11,114 ล้านบาท สูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 21.9% จากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19
นายวิศาล ชวลิตานนท์ รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก...
IRPC คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 “UN Women 2022 Thailand WEPs Awards” 2 ปีซ้อน
ข่าวประชาสัมพันธ์
คุณอาริสรา สุธาสุทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักกิจการองค์กร บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 “UN Women 2022 Thailand WEPs Awards” ในสาขาการส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศผ่านกิจกรรมชุมชนและอุตสาหกรรม (Community Engagement & Partnerships) เป็นปีที่ 2...
“PTT – OR – TOYOTA – BIG” ผนึกกำลังมุ่งสู่พลังงานแห่งอนาคต เปิดสถานีต้นแบบเติมไฮโดรเจนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงแห่งแรกของประเทศไทย
4 บริษัทยักษ์ใหญ่ “PTT – OR – TOYOTA – BIG” จับมือเดินหน้าสู่ผู้นำนวัตกรรมพลังงานสะอาด ร่วมเปิดสถานีนำร่องทดลองใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงแห่งแรกของไทย ณ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยการนำรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง รุ่นมิไร (Mirai) ของโตโยต้า มาทดสอบการใช้งาน ตอบรับเแผน ภาครัฐ สู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่...
ปตท. คาดราคาน้ำมันดิบ ICE Brent สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 95 – 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent สัปดาห์นี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 95 - 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 4 พ.ย. 65 ICE Brent ปิดตลาดสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือน...
กพช.เห็นชอบแนวทางการกำหนดอัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียว
กพช.เห็นชอบแนวทางกำหนดโครงสร้างราคาไฟฟ้าสีเขียว(Utility Green Tariff) พร้อมมีมติหยุดเก็บเงินผู้ผลิตไฟฟ้าเพื่อส่งเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าชั่วคราว จากเดิมเก็บอยู่ 0.5 สตางค์ต่อหน่วย หวังลดค่าไฟฟ้ารอบบิล พ.ย.-ธ.ค. 2565 ลง 5 สตางค์ต่อหน่วย
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการกำหนดอัตราค่าบริการไฟฟ้า สีเขียว (Utility Green Tariff) ในโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าขายปลีก
โดยประกอบด้วย (1) อัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียวจากโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่มีอยู่เดิมในระบบไฟฟ้า ซึ่งเป็นการนำใบรับรองการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate: REC) ของโรงไฟฟ้าเดิมที่รัฐมีกรรมสิทธิ์มาให้บริการร่วมกับการให้บริการพลังงานไฟฟ้า และเป็นการให้บริการในลักษณะที่ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ต้องเจาะจงแหล่งที่มาของไฟฟ้าและ REC ในการขอรับบริการ โดยมีอัตราค่าบริการส่วนเพิ่ม (Premium) เพิ่มเติมจากอัตราค่าไฟฟ้าตามปกติที่ครอบคลุมต้นทุนค่า REC รวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะกำหนดต่อไป
(2) อัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียวจากโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ และโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเดิมในระบบไฟฟ้าทั้งของรัฐและเอกชน ซึ่งเป็นการให้บริการพลังงานไฟฟ้าและ REC ซึ่งมาจากแหล่งเดียวกัน โดยผู้ใช้ไฟฟ้าต้องเจาะจงกลุ่มโรงไฟฟ้า (Portfolio) ในการรับบริการ และอัตราค่าบริการกำหนดจากต้นทุนการให้บริการพลังงานไฟฟ้าและ REC ของแต่ละ Portfolio รวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ ตามที่ กกพ. จะกำหนดต่อไป
ทั้งนี้ ในการกำหนดองค์ประกอบและโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าสีเขียวทั้งสองรูปแบบ รวมถึงการจัดสรรต้นทุนการให้บริการแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วไปที่ครอบคลุมต้นทุนสาธารณะ และวิธีการและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการ กกพ. จะพิจารณากำกับดูแลภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 ให้โปร่งใสและเป็นธรรมต่อผู้ใช้ไฟฟ้าทุกกลุ่ม
นอกจากนี้ ที่ประชุม กพช. ยังมีมติเห็นชอบการทบทวนการกำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าตามหลักเกณฑ์การกำหนดโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้า ประเทศไทย ปี 2554-2558 โดยให้มีการปรับปรุงข้อความการนำส่งเงินเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าตามมาตรา 97(4) เพื่อการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีที่ใช้ในการประกอบกิจการไฟฟ้าที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย จากเดิม “โดยเรียกเก็บจากผู้รับใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้าในอัตรา 0.5 สตางค์ต่อหน่วย” เป็น “โดยเรียกเก็บจากผู้รับใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้าในอัตราไม่เกิน 0.5 สตางค์ต่อหน่วย” เพื่อให้ กกพ. สามารถกำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าจากผู้รับใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้าเป็น 0 บาทต่อหน่วยเป็นการชั่วคราว
ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะช่วยลดผลกระทบภาระค่าไฟฟ้าต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน และเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้จ่ายเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกภาคส่วน
“มาตรการเหล่านี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะมาช่วยกดต้นทุนค่าไฟฟ้าในงวดสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งเบื้องต้น น่าจะช่วยให้ค่าไฟลดลงได้เฉลี่ยประมาณ 5 สตางค์ต่อหน่วย โดยน่าจะเริ่มได้ในรอบบิลค่าไฟเดือน พ.ย.นี้ ส่วนค่าไฟฟ้างวดแรกของปี 66 (ม.ค.-เม.ย.) จะลดได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กกพ. แต่สิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ขณะนี้ก็เพื่อไม่ให้ค่าไฟฟ้าเป็นภาระต่อค่าครองชีพของประชาชน”
กพช.ส่งสัญญาณวิกฤติพลังงานปลายปี งัดมาตรการจัดการไฟฟ้า วอนทุกฝ่ายช่วยประหยัด
คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) งัดทุกแนวทางบริหารจัดการไฟฟ้า ช่วงวิกฤติราคาพลังงาน ต.ค.-ธ.ค. 2565 หลังราคา LNG โลกพุ่งสูงในช่วงฤดูหนาวพร้อมขอความร่วมมือประชาชน ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าและเอกชน ช่วยประหยัดพลังงานเต็มที่
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีการพิจารณากรณีราคาก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) ในตลาดโลกมีความผันผวนและปรับตัวเพิ่มขึ้นในระดับสูงจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของหลายประเทศทั่วโลก
โดยความไม่สงบระหว่างสหพันธรัฐรัสเซียและประเทศยูเครนที่ยังไม่มีข้อยุติ ส่งผลให้ราคา LNG ในตลาดโลกเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 28-29 เหรียญสหรัฐฯต่อล้านบีทียู และเกิดการตึงตัวของอุปทานก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน รวมถึงการอ่อนตัวของค่าเงินบาท
ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบมาตรการบริหารจัดการพลังงานในสถานการณ์วิกฤตราคาพลังงานในช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2565 เช่น หันไปใช้น้ำมันเตาและน้ำมันดีเซล เพื่อการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ในช่วงที่ก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) มีราคาแพง แต่หากช่วงที่ LNG ราคาถูกลงมาอยู่ที่ประมาณ 26-29 เหรียญสหรัฐฯต่อล้านบีทียู ก็จะพิจารณาสั่งซื้อมาเก็บสำรองไว้ รวมถึงการจัดหาแหล่งก๊าซฯจากในประเทศทั้งในอ่าวไทยและบนบก ตลอดจนพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย(JDA) เพิ่มเติมในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปี 2565 นี้ ให้ได้ปริมาณ 100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
รวมทั้งการเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน (แม่เมาะ) โรงที่ 8 อีก 555 เมกะวัตต์ การรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนระยะสั้นจากโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก ( SPP )และโรงไฟฟ้าขนาดเล็กมาก ( VSPP) ประมาณ 163 เมกะวัตต์พร้อมจัดหาน้ำมันดีเซล เพิ่มเติมให้กับโรงไฟฟ้าก๊าซฯ อีกประมาณ 20 ล้านลิตร และเพิ่มน้ำมันเตา 0.5% สำหรับป้อนเป็นเชื้อเพลิงให้โรงไฟฟ้าบางปะกง อีกทั้ง รับซื้อไฟฟ้าพลังน้ำจากลาวเพิ่ม เช่น โครงการน้ำเทิน 1 ประมาณ 43 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าเทินหินบุน อีก 9.6 เมกะวัตต์ พร้อมนำโรงไฟฟ้าถ่านหิน(แม่เมาะ) โรงที่ 4 กลับมาผลิตไฟฟ้าด้วย
“กระทรวงพลังงาน ยังเสนอ กพช.เพิ่มเติมว่า เมื่อมีการบริหารจัดการพลังงานช่วงราคาผันผวนแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนก็คือ การประหยัดพลังงาน เช่น เปิดแอร์ 27 องศา กำหนดเวลาเปิด-ปิด ป้ายไฟLED ปิดปั๊มหลัง 4 ทุ่ม ห้างสรรพสินค้า ปิดแอร์ก่อนเวลาปิดห้างฯ ประมาณ 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง รวมถึงกำหนดเวลาเปิด-ปิดร้านสะดวกซื้อเซเว่นฯ เป็นต้น ซึ่งมาตรการนี้เป็นการขอความร่วมมือ”
ทั้งนี้ ที่ประชุม กพช. ได้มอบหมายให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบมาตรการบริหารจัดการพลังงานฯ แต่ละมาตรการ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.), การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.),กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.), กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ (ชธ.) ,บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ,กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เร่งดำเนินการตามมาตรการ โดยต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
ซึ่งที่ประชุม กพช. ได้มอบหมายให้ สำนักงาน กกพ. ติดตามสถานการณ์ราคาพลังงาน โดยเปรียบเทียบราคา Spot LNG นำเข้ากับราคาเชื้อเพลิงและต้นทุนในแต่ละมาตรการ เพื่อนำมาพิจารณาในการที่จะคงการใช้มาตรการที่มีความคุ้มค่าและเลิกใช้มาตรการที่ไม่มีความคุ้มค่าโดยคำนึงถึงประโยชน์ต่อประชาชนเป็นสำคัญ
ทั้งนี้หากสถานการณ์ราคาพลังงานเปลี่ยนแปลงไปอันจะส่งผลให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงการใช้มาตรการต่างๆ แล้วให้สำนักงาน กกพ. รายงานต่อคณะอนุกรรมการบริหารจัดการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงาน (คณะอนุกรรมการฯ) โดยเร็ว และที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) โดยคณะอนุกรรมการฯติดตามการดำเนินงานตามมาตรการบริหารจัดการพลังงานในสถานการณ์วิกฤตราคาพลังงาน ในช่วงเดือนตุลาคม2565 – เดือนธันวาคม 2565 อย่างใกล้ชิด และรายงานต่อ กพช. ทราบต่อไป
ปตท. ผนึก ไออาร์พีซี ดันการลงทุนและพัฒนาธุรกิจ Advanced Business Integration
ปตท. ผนึก ไออาร์พีซี พัฒนา 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจผลิตวัสดุประสิทธิภาพชั้นสูง, ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนสำคัญของ Li-ion แบตเตอรี่, ธุรกิจการทำให้สารบริสุทธิ์ และธุรกิจเกี่ยวกับเคมีภัณฑ์เพื่อชีวิต สอดรับกับวิสัยทัศน์ Powering Life with Future Energy and Beyond ของ ปตท.
วันนี้ (7...
IRPC ร่วมแสดงพลังขับเคลื่อนเป้าหมายประเทศในการปกป้องคุ้มครองระบบนิเวศ
บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC โดยคุณอาริสรา สุธาสุทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักกิจการองค์กร ผู้แทน IRPC ร่วมประกาศเจตนารมณ์แสดง “ความมุ่งมั่นบริหารจัดการ กำหนดนโยบาย และใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืนและเป็นธรรมตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยมีระบบในการประเมินและติดตามตรวจสอบคุณค่าความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน และด้วยการสนับสนุนกลไกทางการเงิน การบริหารจัดการอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ และความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการปกป้องคุ้มครองพื้นที่บนบกและทะเลให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 30...
กบน.เตรียมรับมือคลังปรับขึ้นภาษีดีเซลหลัง 20 พ.ย.65 คาดเงินกู้ 1 หมื่นล้านเข้ากองทุนฯสัปดาห์หน้า
คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) กางแผนรับมือหลายแนวทาง กรณีคลังปรับขึ้นภาษีดีเซล หลังหมดมาตรการลดภาษีดีเซล 5 บาทต่อลิตร 20 พ.ย. 2565 ชี้การปรับขึ้นราคาเพียง 1 บาทต่อลิตร ก็กระทบเงินกองทุนฯแน่นอน เหตุเงินกู้ 1 หมื่นล้าน แค่เข้ามาเสริมสภาพคล่องชำระหนี้ ไม่สามารถรองรับภาระที่เพิ่มขึ้นได้มากนัก ประกอบกับสิ้นเดือน พ.ย.นี้ เงินช่วยเหลือ 3,000 ล้านบาทของ ปตท. จะสิ้นสุดลงด้วย ระบุรอผลสรุปมาตรการภาษีดีเซลที่ชัดเจนเร็วๆนี้ก่อนพิจารณามาตรการด้านราคาดีเซลต่อไป
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center-ENC) รายงานว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) ได้หารือเตรียมความพร้อมรองรับกรณีกระทรวงการคลังปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล หลังหมดมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร ในวันที่ 20 พ.ย. 2565 นี้ โดยก่อนหน้านี้ได้จัดทำแบบจำลองการปรับขึ้นภาษีดีเซลไว้ 3-4 แนวทาง พร้อมการบริหารเงินกองทุนฯ ทั้งกรณีไม่ปรับขึ้นภาษีดีเซลจนถึงสิ้นปี 2565 รวมถึงกรณีทยอยปรับขึ้น หรือ ขึ้นภาษีทีเดียว 5 บาทต่อลิตร
โดยหากมีการปรับขึ้นภาษีดีเซล ไม่ว่าจะกรณีใด ก็จะกระทบเงินกองทุนฯ อย่างแน่นอน เนื่องจากเงินกู้ 10,000 ล้านบาท ที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการกู้เงินกับสถาบันการเงิน เป็นเงินสำหรับนำมาเสริมสภาพคล่องในการชำระหนี้ต่างๆ เท่านั้น ไม่ได้เตรียมไว้สำหรับภาระที่เพิ่มขึ้น
ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่าจะมีการปรับขึ้นภาษีดีเซลแบบขั้นบันได เดือนละ 1 บาทต่อลิตรไปจนครบ 5 บาทต่อลิตรนั้นหากเป็นจริง ทางสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(สกนช.) คงต้องกลับไปจัดทำกรณีตัวอย่างเพื่อเสนอ กบน.พิจารณาหาแนวทางดูแลราคาดีเซลไม่ให้กระทบต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด
ปัจจุบันกองทุนฯชดเชยราคาดีเซลอยู่ 2.15 บาทต่อลิตร หรือ 130 ล้านบาทต่อวัน หากขึ้นภาษี 1 บาทต่อลิตร และกองทุนฯเข้าไปแบกรับภาระแทน ก็จะต้องชดเชยราคาดีเซลเป็น 3.15 บาทต่อลิตร ถือเป็นภาระที่หนักสำหรับกองทุนฯ เช่นกัน เนื่องจากต้องมีภาระการพยุงราคาดีเซลที่เพิ่มขึ้นแล้ว เงินช่วยเหลือจากบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) 3,000 ล้านบาท ก็จะสิ้นสุดในเดือน พ.ย.2565 ด้วย
อย่างไรก็ตามคงต้องรอความชัดเจนจากกระทรวงการคลัง ที่จะต้องพิจารณาให้รอบคอบทั้งด้านภาระเงินกองทุนฯ ที่ตึงตัว ผลกระทบต่อราคาดีเซลประชาชน รวมถึงราคาน้ำมัน ณ เวลานั้น และภาพรวมทางเศรษฐกิจประเทศด้วย
ส่วนความคืบหน้าการกู้เงิน 10,000 ล้านบาท จากสถาบันการเงินนั้น คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วๆนี้ ว่าจะเลือกกู้กับสถาบันการเงินใด โดยคาดว่าเงินจะเข้าบัญชีกองทุนฯ ได้ในสัปดาห์หน้า
สำหรับที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้ลดภาษีสรรพสามิตดีเซลมาแล้ว 4 ครั้ง โดยครั้งแรกลด 3 บาทต่อลิตร เมื่อ 18 ก.พ.-30 พ.ค. 2565 หลังจากนั้นลดภาษี 5 บาทต่อลิตร ต่อเนื่อง 3 ครั้ง ครั้งละ 2 เดือน นับตั้งแต่ 21 พ.ค.- 20 ก.ค.2565, 21 ก.ค.-20 ก.ย. และวันที่ 21 ก.ย.-20 พ.ย. 2565
ทั้งนี้สถานะกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุด ณ วันที่ 30 ต.ค. 2565 กองทุนฯ ติดลบถึง 129,701 ล้านบาท โดยมาจากบัญชีน้ำมันติดลบ 86,781 ล้านบาท และมาจากบัญชี LPG ติดลบ 42,920 ล้านบาท
ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันโลก ณ วันที่ 4 พ.ย. 2565 เวลาประมาณ 15.00 น. ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 91.13 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 90.27 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.10 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) อยู่ที่ 96.67 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ส่วนสถานการณ์ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมัน ณ วันที่ 4 พ.ย. 2565 ซึ่งรายงานโดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ระบุว่าค่าการตลาดผู้ค้าดีเซลอยู่ที่ 1.57 บาทต่อลิตร ส่วนค่าการตลาดกลุ่มเบนซินอยู่ที่ 2-3 บาทต่อลิตร ในขณะที่ค่าการตลาดเฉลี่ยระหว่าง 1-4 พ.ย. 2565 อยู่ที่ 2.17 บาทต่อลิตร โดยภาครัฐขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันตรึงค่าการตลาดไว้ไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร
Hitachi Energy เปิดตัวผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยสูง เพื่อรองรับการเชื่อมต่อตลอดเวลา สำหรับระบบไฟฟ้าสมัยใหม่และ Smart City
TRO610 เร้าเตอร์ขนาดกะทัดรัดแบบไร้สายสำหรับงานภาคอุตสาหกรรม ที่สามารถช่วยให้เข้าถึงอุปกรณ์ภาคสนามเพื่อเพิ่มเสถียรภาพของระบบและรองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้น
Hitachi Energy เปิดตัวเร้าเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุด TRO610 ที่รองรับระบบเซลลูลาร์สำหรับงานระบบสื่อสาร การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และถูกดีไซน์มาเพื่อรองรับการสื่อสารของอุปกรณ์ IOT (Internet of Things) ในภาคอุตสาหกรรม งานสาธารณูปโภค เมืองอัจฉริยะ น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ภาคการผลิตและอุตสาหกรรมหนัก เช่น เหมืองแร่ โดยที่ TRO610 เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปกรณ์สื่อสารไร้สายของ...
กฟผ.แม่เมาะ เปิดทุ่งบัวตองรับนักท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจไทย
กฟผ.แม่เมาะ ร่วมกับ จ.ลำปาง และ ททท. พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ชมงานเทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะ ครั้งที่ 18 ร่วม “ปักหมุดหัวใจที่แม่เมาะ” ชมดอกบัวตอง บานสะพรั่งเต็มทุ่ง ร่วมสนุกกับกิจกรรมมากมาย ตลอดเสาร์ – อาทิตย์ที่ 12-13 และ 19-20 พ.ย. นี้
โดยงานเทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะ กฟผ. จัดขึ้นปีละ...
เอกชนแห่ร่วมโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาด กกพ.เตรียมแนะนำการยื่นคำเสนอขายไฟฟ้า 4 พ.ย.65
คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เผยเอกชนสนใจ “โครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาด 5,203 เมกะวัตต์” แห่ยื่นขอตรวจสอบจุดเชื่อมต่อไฟฟ้ามากถึง 3 เท่าของปริมาณการรับซื้อ กกพ. เตรียมเปิดสัมมนาออนไลน์ให้คำแนะนำเบื้องต้นในการยื่นคำเสนอขายไฟฟ้า ในวันที่ 4 พ.ย. 2565 นี้
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 สำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้าประเภทไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 จำนวนรวม 5,203 เมกะวัตต์ว่า ที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ประกอบการยื่นขอตรวจสอบจุดเชื่อมต่อระบบไฟฟ้า เมื่อวันที่ 3 - 28 ต.ค. 2565 มากถึง 3 เท่าของปริมาณการรับซื้อไฟฟ้าที่กำหนดในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ ,โซลาร์เซลล์รวมแบตเตอรี่ และพลังงานลม แต่ต้องรอความชัดเจนจาก 3 การไฟฟ้าอีกครั้ง เนื่องจากพื้นที่สายส่งที่บางรายยื่นขออาจมีการทับซ้อนกัน ทำให้ตัวเลขออกมามากเกินจริง
ส่วนเกณฑ์การคัดเลือกนั้น เนื่องจากมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2565 ได้กำหนดกรอบราคารับซื้อพลังงานทดแทนแต่ละประเภทออกมาแล้ว ดังนั้นการพิจารณาจึงต้องเป็นไปตามมติ กพช. โดยจะพิจารณาจากความพร้อมของโครงการก่อน หากโครงการใดที่มีความพร้อมมากที่สุดก็จะได้รับสิทธิ์ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center-ENC) รายงานว่า กกพ.เตรียมจัดสัมมนาออนไลน์เรื่อง “การรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 สำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้าประเภทไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 สำหรับผู้ยื่นขอตรวจสอบจุดเชื่อมต่อระบบไฟฟ้ากับการไฟฟ้า” ในวันที่ 4 พ.ย. 2565 เวลา 13.30-16.00 น. เพื่อให้คำแนะนำเบื้องต้นในการยื่นคำเสนอขายไฟฟ้า
ทั้งนี้จะมีการให้ข้อมูลด้านการเตรียมความพร้อมการรับซื้อไฟฟ้าให้กับผู้ที่ยื่นขอตรวจสอบจุดเชื่อมต่อระบบไฟฟ้ากับการไฟฟ้า ทั้งด้านขั้นตอนการรับซื้อไฟฟ้า,คำเสนอขายไฟฟ้า,การใช้ระบบบริหารจัดการคำเสนอขายไฟฟ้าและเอกสารที่เกี่ยวข้องในการรับซื้อไฟฟ้า, การวางหลักประกันการยื่นเสนอขายไฟฟ้าและเงื่อนไขสัญญาขายไฟฟ้า
สำหรับประกาศเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in-Tariff (FiT) พ.ศ. 2565-2573 แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ประเภทพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน, ประเภทก๊าซชีวภาพ (น้ำเสีย/ของเสีย),ประเภทพลังงานลม และประเภทพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน รวมปริมาณรับซื้อไฟฟ้า5,203 เมกะวัตต์
โดยทั้ง 4 ประเภทกำหนดกรอบเวลาเปิดรับซื้อไฟฟ้าดังนี้ 1. การไฟฟ้าจะออกประกาศให้ยื่นคำขอตรวจสอบจุดเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าระหว่าง 3-28 ต.ค. 2565 นี้ ...
Dow ชวนกดชัตเตอร์ ถ่ายภาพป่าชายเลนระยอง ชิงรางวัลกว่า 1 แสนบาท
Dow ชวนกดชัตเตอร์ ถ่ายภาพป่าชายเลนระยอง ชิงรางวัลกว่า 1 แสนบาท
ระยอง – 1 พฤศจิกายน 2565 - กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) จัดกิจกรรมการประกวดภาพถ่าย “Dow ชวนเที่ยว ป่าชายเลนระยอง” ภายใต้โครงการ Dow & Thailand Mangrove...
ปตท.สผ.เร่งเจาะหลุมติดตั้ง 8 แท่นผลิตก๊าซฯแหล่งเอราวัณเพิ่มภายในสิ้นปี 65
ปตท.สผ. เผยความคืบหน้าการผลิตก๊าซฯ แหล่งเอราวัณ ปัจจุบันผลิตได้รวม 210 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เร่งทำการขุดเจาะและติดตั้งแท่นผลิตแล้ว 4 แท่น คาดจะดำเนินการให้ครบ 8 แท่นภายในสิ้นปี 2565 นี้ ระบุได้เข้าร่วมประมูลขอสิทธิ์ผลิตและสำรวจปิโตรเลียมรอบ 24 ด้วย รอฟังผลการพิจารณาของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ คาดชัดเจน ก.พ. 2566 พร้อมประเมินราคาน้ำมันปลายปี2565 เฉลี่ย 80-114 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
นายธนัตถ์ ธำรงศักดิ์สุวิทย์ ผู้จัดการแผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผย ในงานOppday Q3/2022 บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) PTTEP เมื่อวันที่ 2 พ.ย.2565 ว่า ความคืบหน้าโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแหล่งเอราวัณ ( G1/61) นั้น บริษัทได้เร่งเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซฯให้ได้ตามแผน โดยปัจจุบันมีกำลังผลิตอยู่ที่ 210 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (จากสัญญาที่ต้องผลิตให้ได้ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน )ซึ่งหลังจากเข้ารับเป็นผู้ดำเนินงานเมื่อเดือน เม.ย.2565 เป็นต้นมา บริษัทได้เริ่มทำการขุดเจาะและติดตั้งแท่นผลิตแล้ว 4 แท่น และจะดำเนินการให้ครบ 8 แท่นภายในสิ้นปี 2565 นี้
นอกจากนี้ บริษัท ยังเข้าร่วมยื่นประมูลขอสิทธิ์สำรวจและผลิตปิโตรเลียม รอบที่ 24 ซึ่งอยู่ระหว่างรอฟังผลการพิจารณาของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ คาดว่า จะมีความชัดเจนภายในเดือน ก.พ.2566
ทั้งนี้บริษัทฯ ประเมินว่า ในไตรมาส 4 ปี 2565 นี้ ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ย จะอยู่ที่ 80-114 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และความต้องการใช้น้ำมันของโลกจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 101 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนราคาก๊าซฯเฉลี่ยทั้งปี 2565 จะอยู่ที่ 40-53 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู โดยการใช้ก๊าซฯของโลกจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 397 ล้านตันต่อปี ขณะที่กำลังการผลิตก๊าซฯ ของโลก จะอยู่ที่ 420 ล้านตันต่อปี
ทิศทางการดำเนินงานของบริษัทฯ ทั้งปี 2565 คาดว่า ปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ย จะอยู่ที่ 468,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่เคยประเมินว่า จะอยู่ที่ระดับ 465,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากการเร่งเพิ่มกำลังผลิตก๊าซฯในอ่าวไทยทั้งโครงการ G1/61 (แหล่งเอราวัณ) โครงการบงกช และอาทิตย์ รวมถึงโครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ที่เริ่มทำการขายน้ำมันแล้ว
ขณะที่ราคาก๊าซฯ เฉลี่ยทั้งปี 2565 นี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 6.3 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู และต้นทุนต่อหน่วย (Unit cost) เฉลี่ยทั้งปี 2565 นี้ จะอยู่ที่ 29-30 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ และEBITDA Margin จะอยู่ที่ระดับ 70-75% ตามที่คาดการณ์ไว้
สำหรับความคืบหน้าแผนการลงทุนของบริษัทนั้น ในส่วนของโครงการลงทุนสำรวจและผลิตปิโตรเลียม(E&P) ได้แก่ โครงการในมาเลเซีย ในโครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย(MTJDA)ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลไทยและรัฐบาลมาเลเซีย ให้ขยายอายุสัญญาต่อไปอีก 10 ปี ซึ่งจะหมดอายุในปี 2582 พร้อมให้สิทธิในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่โดยรอบเพิ่มเติมนอกจากนั้นยังได้ปริมาณก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 30 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เพื่อช่วยสนับสนุนความต้องการการใช้ก๊าซฯ ในประเทศไทย
รวมถึง ยังมีอีก 8 โครงการ ที่อยู่ระหว่างการสำรวจและรอประเมินผล และอยู่ระหว่างประเมินผลการเจาะหลุม ลัง เลอบาห์-2 ในโครงการซาราวักเอสเค 410 บี ขณะที่เหตุการณ์ท่อส่งก๊าซฯแหล่งซอติก้ารั่ว และต้องหยุดส่งก๊าซฯมาประเทศไทย 2 สัปดาห์นั้น ปัจจุบันแก้ไขปัญหาเรียบร้อยและดำเนินการจัดส่งก๊าซฯได้ตามปกติแล้ว และยังเพิ่มการขุดเจาะหลุมสำรวจก๊าซฯ เพิ่มเติมในช่วงปลายปี 2565 นี้ด้วย นอกจากนี้ ในส่วนของโครงการ GAS TO POWER ยังคงดำเนินการตามแผนงาน ทั้งการประเมินศักยภาพปิโตรเลียมและการร่างสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
ขณะที่การลงทุนในภูมิภาคตะวันออกกลาง ในส่วนของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) บริษัทมีแปลง ออฟชอร์ 1 และ 3 ที่อยู่ระหว่างการศึกษาทางธรณีวิทยาและประเมินศักยภาพทางปิโตรเลียมรวมถึงประสบความสำเร็จจากการเจาะหลุมสำรวจหลุมแรกในโครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 2 ได้ค้นพบก๊าซธรรมชาติในแหล่งกักเก็บโดยรวมประมาณ 2.5 – 3.5 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต โดยอยู่ระหว่างการประเมินผลเพื่อพัฒนาโครงการต่อไป
ส่วนการลงทุนในภูมิภาคอื่นๆ เช่น ในประเทศแอลจีเรีย บริษัทฯ คาดว่า โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิเบอร์ ราเคซจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ปี 2565 นี้ หลังเริ่มผลิต เฟส 1 ไปแล้วเมื่อต้นปีในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ด้วยกำลังการผลิตระยะแรก 13 พันบาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ ในส่วนของโครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน ที่ตั้งอยู่นอกชายฝั่งของประเทศโมซัมบิก บริษัทฯอยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมจัดทำแผนกลับเข้าไปลงทุนในพื้นที่ สำหรับการลงทุนในบราซิลนั้น ปตท.สผ. ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายเพื่อขายเงินลงทุนทั้งหมดในบริษัทPTTEP Brazil Investments in Oil...
IRPC ทุ่ม 589 ล้านบาท เดินหน้า 3 โครงการผลิตเม็ดพลาสติก PP Spunbond – PPR...
IRPC ทุ่มงบลงทุนกว่า 589 ล้านบาท เดินหน้า 3 โครงการ ในผลิตภัณฑ์ Smart Material ผลิตเม็ดพลาสติก พีพี สปันบอนด์ (PP Spunbond) 190,000 ตันต่อปี ใหญ่ที่สุดในประเทศ รับกระแสโลกในเรื่องการดูแลสุขภาพ และ พีพีอาร์ (PPR: PP random...
พบงานนิทรรศการอุตสาหกรรมนํ้ามันและก๊าซ พลังงานไฟฟ้า และสินค้าอุตสาหกรรมทางทะเล 2-4 พ.ย. นี้ ที่ไบเทค บางนา
เตรียมพบงานด้านพลังงาน “Oil & Gas Thailand (OGET) 2022” และ “Powerex Asia 2022” รวมทั้งงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมทางทะเลงาน “Thailand Marine & Offshore Expo (TMOX) 2022” บนพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตร ที่ภิรัชฮอล์ลชั้น 2...