บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) แจ้งผลการออกหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีประกัน มูลค่ารวมทั้งสิ้น 15,000 ล้านบาท ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเกินกว่า 2 เท่า ของมูลค่าการเสนอขายทั้งหมด (oversubscription)
โดยนางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน ได้มีหนังสือถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 ว่า GULF ได้ออกหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีประกัน มูลค่ารวมทั้งสิ้น 15,000 ล้านบาท โดยเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน (Institutional Investors) และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth) ซึ่งการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ได้รับผลตอบรับจากผู้ลงทุนอย่างมาก ภายหลังจากการสำรวจความต้องการซื้อตราสารหนี้ (book building) โดยมีผู้ลงทุนแสดงความสนใจลงทุนในหุ้นกู้มูลค่าเกินกว่า 2 เท่า ของมูลค่าการเสนอขายทั้งหมด (oversubscription)
สำหรับหุ้นกู้ที่บริษัทฯ เสนอขายในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 5 ชุด ได้แก่ หุ้นกู้อายุ 2.5 ปีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.37 ต่อปี มูลค่า 5,805 ล้านบาท หุ้นกู้อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.50 ต่อปี มูลค่า 3,664 ล้านบาท หุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.88 ต่อปี มูลค่า 1,500 ล้านบาท หุ้นกู้อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.95 ต่อปี มูลค่า 3,031 ล้านบาท และหุ้นกู้อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.32 ต่อปี มูลค่า 1,000 ล้านบาท โดยเฉลี่ยอัตราดอกเบี้ยคงที่เท่ากับร้อยละ 3.63และอายุเฉลี่ยหุ้นกู้เท่ากับ 4.53 ปี ทั้งนี้บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ในระดับ A+ แนวโน้ม “คงที่” และหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับในระดับ A จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด โดยบริษัทฯ ได้แต่งตั้งให้ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้ซึ่งได้เปิดจองซื้อหุ้นกู้ในวันที่ 25-27 กันยายน 2566และได้ออกหุ้นกู้ ในวันที่ 28 กันยายน 2566
บริษัทฯ เชื่อว่าการสนับสนุนจากผู้ลงทุนในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องในกลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะนำเงินจากการเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าว ไปใช้ในการชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ