GPSC เผยแผนธุรกิจ 5 ปี (2562-2566) ตั้งเป้าผลิตไฟฟ้าให้ได้ 5,400 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีอยู่ 4,986 เมกะวัตต์ โดยมีกำลังการผลิตใหม่ทั้งจากพลังงานทดแทนและเชื้อเพลิงฟอสซิล ในขณะที่ทีมผู้บริหารระดับสูงกลุ่ม ปตท. ประชุมกำหนดนโยบายกำหนดยุทธศาสตร์และทิศทางในอนาคต มุ่งร่วมกันผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนให้ได้ตามเป้า 8,000 เมกะวัตต์ ในอนาคต
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอยี่ จำกัด(มหาชน) GPSC เปิดเผยว่า แผนธุรกิจ 5 ปี (พ.ศ.2562-2566) ตั้งเป้าหมายผลิตไฟฟ้าให้ได้ 5,400 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีอยู่ 4,986 เมกะวัตต์ โดยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นใหม่จะมาจากการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนและจากพลังงานฟอสซิล รวมทั้งยังมีโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก(SPP)ที่ต้องสร้างทดแทน
ทั้งนี้ในปี 2562 นี้ GPSC มีโครงการที่จะเริ่มผลิตไฟฟ้าเข้าระบบ(COD)ทั้งในและต่างประเทศ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าน้ำลิก ใน สปป.ลาว(NL1PC) ขนาดกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 26 เมกะวัตต์,โรงไฟฟ้าไซยะบุรี(XPCL)ขนาด 321 เมกะวัตต์และ ศูนย์ผลิตสาธารณูปการ จังหวัดระยอง แห่งที่ 4(CUP-4)ขนาด 45 เมกะวัตต์ รวม 392 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ยังมีอีก 3 โครงการที่จะทยอย COD ในปี 2563, 2564 และปี 2566 ได้แก่ โครงการส่วนต่อขยายโรงไฟฟ้า นวนคร (NNEG Expansion) เพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าอีก18 เมกะวัตต์ , โครงการโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะ(RDF) 10 เมกะวัตต์ และหน่วยผลิตไฟฟ้า ERU 250 เมกะวัตต์
นายชวลิต กล่าวด้วยว่า ผู้บริหารระดับสูงกลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ได้ประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2562 เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์และทิศทางในอนาคตกลุ่ม (Strategic Thinking Session :STS) โดยที่ประชุมเห็นชอบนโยบายให้ บริษัทในกลุ่ม ปตท. ร่วมกันขยายการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนให้ได้ 8,000 เมกะวัตต์ และให้แต่ละบริษัทไปวางแผนดำเนินการตามนโยบายต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้กลุ่มปตท.บรรลุเป้าหมายการลดภาวะก๊าซเรือนกระจก ที่สอดคล้องกับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และนานาชาติที่ต้องการจะรักษาระดับอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้เพิ่มขึ้นไม่เกิน 2 องศาเซลเซียส
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2562 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติแผนการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในวงเงิน 74,000 ล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างทางการเงินของบริษัทฯ ให้มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งมากขึ้น รองรับการขยายการลงทุนในอนาคต โดยจะนำเงินที่ได้รับไปชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงินและผู้ถือหุ้นรายใหญ่(ได้แก่ บริษัท ปตท.และบริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด(มหาชน) ที่ GPSC ใช้ในการเข้าซื้อกิจการของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด(มหาชน) หรือ GLOW) และเพื่อเป็นการรักษาระดับอัตราส่วนทางการเงินให้เทียบเคียงได้กับบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยมีโครงสร้างทางการเงินที่เหมาะสมและรองรับการลงทุนในโครงการปัจจุบันและโครงการในอนาคต
สำหรับการดำเนินงานของ GPSC ภายหลังรวมกิจการกับ GLOW นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำแผนเพิ่มประสิทธิภาพการ Synergy ในด้านต่างๆร่วมกัน ทั้งการบริหาร จัดการด้านต้นทุน การพัฒนาบุคลากร แผนเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ แผนหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า และแผนการจัดหาอุปกรณ์เพื่อการซ่อมบำรุง รวมถึงความพร้อมในการรองรับการให้บริการในด้านต่างๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน และจำนวนลูกค้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะการลงทุนของผู้ประกอบการในโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EEC)