GC อัพเดทโครงการลงทุนใหม่7หมื่นล้าน ในEEC คืบหน้าแล้ว45-60%

1238
- Advertisment-

GC อัพเดท3โครงการลงทุนด้านปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์เพื่อต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่อุตสาหกรรม รวมมูลค่าลงทุนกว่า70,000 ล้านบาท ในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)   ในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve)มีความก้าวหน้ากว่า 45-60 %แล้ว

สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ CEO บริษัทGC

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ (CEO) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า ในปี 2562 GC เดินหน้ากลยุทธ์ตามแผนระยะยาว (Long Term Strategic Execution) เพื่อขับเคลื่อนโครงการลงทุนในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ  ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเป็นการลงทุนเพื่อต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมในบริเวณพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)   ในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve) ซึ่งหลายโครงการอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างและมีความคืบหน้าของแต่ละโครงการ ดังนี้

1) โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต Olefins Reconfiguration (ORP) เป็นการขยายกำลังการผลิตผ่านการลงทุนใน Naphtha Cracker  ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบที่บริษัทฯ มีอยู่แล้วและเป็นการต่อยอดธุรกิจปลายน้ำในอนาคตด้วยกำลังการผลิตเอทิลีน 500,000 ตันและ โพรพิลีน 250,000 ตัน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว ประมาณ 45% คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2563 มูลค่าโครงการประมาณ 36,000 ล้านบาท

- Advertisment -

2) โครงการโพรพิลีนออกไซด์ (Propylene Oxide :PO) ดำเนินการโดย บริษัท GC Oxirane จำกัด (GCO) โดย GC ถือหุ้น 100 % เพื่อผลิตโพรพิลีนออกไซด์ (PO) 200,000 ตันต่อปี ที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตโพลีออลส์ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว 56 % คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2563

3) โครงการโพลีออลส์ (Polyols) ดำเนินการโดย บริษัท GC Polyols จำกัด (GCP) โดย GC ถือหุ้น 82.1% Sanyo Chemical 14.9 % และ Toyota Tsusho 3 % เพื่อผลิตโพลีเอเทอร์โพลีออลส์ (Polyether Polyols) 130,000 ตันต่อปี     โพลิเมอร์โพลีออลส์ (Polymer Polyols) 30,000 ตันต่อปี และ พรีมิกซ์ (Premix) 20,000 ตันต่อปี เป็นการต่อยอดผลิตภัณฑ์โพรพิลีนไปสู่ผลิตภัณฑ์ปลายทางสายโพลียูรีเทน (Polyurethane) ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คืบหน้าไปแล้ว 60 % คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2563 โดยทั้งสองโครงการ PO/Polyols มีมูลค่าโครงการประมาณ 34,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์จาก Polyols สามารถนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์สมรรถนะสูง (Performance Chemicals) ประกอบด้วย กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง (Construction) กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอีเล็คทรอนิกส์ (Electrical & Electronics : E&E) กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ (Automation) กลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ในครัวเรือน (Household) กลุ่มอุตสาหกรรมรองเท้า (Footwear) และกลุ่มอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ (Packaging) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่อยู่ใน New S-Curve เพื่อตอบสนองต่อแนวทางส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐที่ลงทุนในพื้นที่ EEC

ส่วนโครงการ Polyols เป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากพันธมิตรที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะด้าน Feedstock หรือวัตถุดิบจาก GC ด้านเทคโนโลยีทันสมัยจาก Sanyo Chemical และการสนับสนุนด้านเครือข่ายทางการตลาดจาก Toyota Tsusho สองผู้ร่วมทุนจากประเทศญี่ปุ่น และทีมวิจัยด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สร้างนวัตกรรมที่พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้า

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวด้วยว่า GC พร้อมแล้วกับการต่อยอดขยายการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ในพื้นที่ EEC ที่เป็นพื้นที่ที่ GC เป็นผู้ประกอบการรายแรก ๆ ที่เข้าไปลงทุนเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ณ วันนี้ GC พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างรายได้ให้กับประเทศ สามารถแข่งขันได้ในโลกการค้าเสรีในยุคปัจจุบัน

Advertisment