บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC เลื่อนตัดสินใจลงทุน โครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่รัฐโอไฮโอ ในสหรัฐฯ ออกไปอีก4-5 เดือน เหตุต้นทุนค่าก่อสร้างสูงจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เติบโตสูง พร้อมเผยผลประกอบการปี 2561 มีกำไร 40,069 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ที่บริษัทย่อย PTTGC America LLC (PTTGCA) ร่วมกับบริษัทในเครือของบริษัท Daelim Industrial Co., Ltd. (DAELIM) ซึ่งเป็นผู้นำด้านธุรกิจก่อสร้างและเคมีภัณฑ์ จากสาธารณรัฐเกาหลี คาดว่าจะเลื่อนการตัดสินใจออกไป 4-5 เดือน เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจในสหรัฐฯเติบโตรวดเร็ว ส่งผลให้ค่าแรงและค่าก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ดังนั้นจึงต้องใช้ระยะเวลาการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อพิจารณาตัดสินใจโครงการลงทุนต่อไป
สำหรับผลประกอบการในปี 2561 ของบริษัทฯ มีผลการดำเนินการที่ดีขึ้นจากปีก่อนหน้า มีกำไรสุทธิ 40,069 ล้านบาทสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีรายได้จากการขาย 515,449 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 18% และมีกำไรจากการดำเนินการหลัก(ไม่รวมผลของรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติ)จำนวน 42,608 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13% โดยมีปัจจัยหลักมาจากระดับราคาผลิตภัณฑ์เฉลี่ยที่ปรับเพิ่มขึ้นและปริมาณขายรวมที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ทิศทางการดำเนินงานในปี 2562 บริษัทฯ ดำเนินงานผ่านกลยุทธ์สำคัญ คือ การสร้างความแข็งแกร่งภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ Efficiency enhancement Project Max ทำได้ตามเป้าหมาย 10,800 ล้านบาท และจะเดินหน้าต่อไป การเริ่มโครงการ Digitalization phase เพื่อนำระบบ AI เข้ามาสนับสนุนกระบวนการทำงานให้ดียิ่งขึ้นและจะเป็นโครงการต่อเนื่องไปในอนาคต ,Market Strategy & Intelligence ศูนย์ CSC สนับสนุนกลยุทธ์การตลาด สร้างการเติบโตไปด้วยกันกับลูกค้า และ Expand market portfolio in high growth region ร่วมลงทุนในเมียนมาร์กับพันธมิตร ตั้งสำนักงานขายในเมียนมาร์และเวียดนาม ปี 2561 มีปริมาณการขายเม็ดพลาสติกโพลิเอทิลีนในกลุ่มประเทศ CLMV จำนวน 250,000 ตันต่อปี
นอกจากนี้ เดินหน้ากลยุทธ์ตามแผนระยะยาว ปัจจุบันโครงการสำคัญหลายโครงการที่ได้รับการอนุมัติการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ได้แก่ 1.โครงการ Olefins Reconfiguration เป็นการขยายกำลังการผลิตผ่านการลงทุนใน Naftha Cracker เป็นการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบที่บริษัทฯมีอยู่แล้วและเป็นการต่อยอดธุรกิจปลายน้ำในอนาคตด้วยกำลังการผลิต เอทิลีน 500,000 ตันและ โพรพีลีน 250,000 ตัน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2563
2.โครงการ Propylene Oxide (PO) โครงการ Polyols ซึ่งเป็นการต่อยอดผลิตภัณฑ์โพรพีลีนไปสู่ผลิตภัณฑ์ปลายทางสาย Polyurethane ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2563 , 3.โครงการผลิตผลิตภัณฑ์วิศวกรรมชั้นสูง PA9T และ HSBC เป็นความร่วมมือกับนักลงทุนจากญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัท คุราเร่ จีซี แอดวานซ์ แมททีเรียลส์ จำกัด เพื่อร่วมลงทุนในธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ ดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกวิศวกรรมชั้นสูง ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่จะผลักดันให้เกิดการเติบโตในอนาคต โครงการเหล่านี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างและดำเนินการตามแผนที่วางเอาไว้ คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2565
และ 4.บริษัทฯ เข้าถือหุ้นในบริษัท Siam Mitsui PTA Co., Ltd. (SMPC, เปลี่ยนชื่อเป็น GCM-PTA) และ Thai PET Resin Co., Ltd. (TPRC) ซึ่งดำเนินธุรกิจ PTA กำลังการผลิต 970,000 ตันต่อปี และ PET กำลังการผลิต 147,000 ตันต่อปี เพื่อต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ พาราไซลีน (PX) และ โมโนเอทิลีนไกลคอล (MEG) ตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มขวดบรรจุภัณฑ์อย่างครบวงจร ประกอบกับเป็นช่วงขาขึ้นในธุรกิจ PTA ทำให้บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการกำไรได้ดียิ่งขึ้น