นับเป็นโอกาสดีสำหรับศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center-ENC) และคณะสื่อมวลชนหลายสำนักที่ได้เดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์เศรษฐพัฒน์ จ.สงขลา ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกช่างเทคนิคปิโตรเลียมแห่งแรกของไทย โดย บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด และได้เห็นการดำเนินงานของศูนย์เศรษฐพัฒน์ ในการฝึกอบรมช่างฝีมือปิโตรเลียมอย่างเข้มข้นเอาจริงเอาจัง เพื่อออกไปทำงานบนแท่นผลิตปิโตรเลียมกลางทะเลอ่าวไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
แต่นอกจากมิติของการฝึกอบรมหลักสูตรสำหรับช่างปิโตรเลียมที่เข้มข้นแล้ว ศูนย์เศรษฐพัฒน์ยังมีมุมของการอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูลกับเพื่อนบ้านรั้วเดียวกันอย่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (มทร.) จ.สงขลา โดยศูนย์เศรษฐพัฒน์ได้ไว้วางใจให้ มทร. ศรีวิชัย จัดเมนูอาหารจานเด็ดสำหรับมื้อกลางวัน พร้อมเครื่องดื่มและของว่างสำหรับช่วงพัก ให้แก่คณะบุคคลต่างๆ ที่จะมาเยี่ยมชมการดำเนินการของศูนย์ฯ ดังที่คณะสื่อมวลชนที่เข้าร่วมกิจกรรมได้มีโอกาสลองชิม
สำหรับเมนูเด็ดที่ทาง มทร. จัดเตรียมไว้ต้อนรับคณะสื่อมวลชนจากกรุงเทพนั้น ต้องบอกว่าเทียบชั้นได้กับโรงแรม 5 ดาวเลยทีเดียว เห็นถึงความประณีตในการคัดสรรวัตถุดิบและการปรุงรสในส่วนของอาหารคาว ในขณะของหวานรวมทั้งผลไม้นั้น ก็มีการประดิดประดอย ตัดแบ่งแกะสลักเอาไว้อย่างสวยงาม
คุณวิษุวัต สิงหศิริ ผู้จัดการศูนย์เศรษฐพัฒน์ บอกกับ ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ว่า ในปี 2562 ที่จะถึงนี้ ทางศูนย์เศรษฐพัฒน์ จะมีความร่วมมือกับทาง มทร. ในส่วนของภาควิชาคหกรรมศาสตร์ ตลอดทั้งปี ในการจัดเตรียมอาหารดังกล่าว โดยศูนย์ฯ จะจัดส่งกำหนดการเยี่ยมชมให้กับ ภาควิชาคหกรรมศาสตร์ ของ มทร.เป็นการล่วงหน้า เพื่อจะได้วางแผนเตรียมการและการสอนนักศึกษาในการทำอาหารเมนูใหม่ๆ ได้อย่างเป็นระบบ จากเดิมที่มีการสั่งทำเป็นครั้งคราว
“ความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งทางศูนย์เศรษฐพัฒน์และ มทร. โดยศูนย์เศรษฐพัฒน์ จะมีอาหารเมนูพิเศษจากฝีมือของอาจารย์และนักศึกษาภาควิชาคหกรรมศาสตร์ไว้ต้อนรับคณะที่มาเยี่ยมชมศูนย์ฯ ในขณะเดียวกัน ก็สร้างโอกาสให้ทาง มทร. ได้พัฒนาการเรียนการสอนของคณาจารย์และนักศึกษาภาควิชาคหกรรมศาสตร์อย่างเป็นระบบ สามารถจะวางแผนการเรียนการสอนล่วงหน้าได้ตลอดทั้งปี โดยเชื่อว่าจะมีเมนูใหม่ๆ ออกมาให้ลิ้มลองตลอดทั้งปี 2562 ที่จะถึงนี้” คุณวิษุวัต กล่าว
ตัวแทนอาจารย์ภาควิชาคหกรรมศาสตร์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า อาหารแต่ละเมนูต้องใช้เวลาพอสมควรในการสอนนักศึกษา ให้ทั้งทำเป็นและทำอร่อย โดยการได้มีเวทีฝึกฝนบ่อยๆ จะเป็นประโยชน์ต่อตัวนักศึกษาเองในการออกไปทำงานจริงในอนาคต ทั้งนี้ ที่ผ่านมา นอกจากการจัดเตรียมอาหารให้กับทางศูนย์เศรษฐพัฒน์แล้ว ในช่วงก่อนหน้านี้ทาง มทร. ก็มีโอกาสได้จัดเตรียมอาหารสำหรับมื้อสำคัญของคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่มาประชุมที่สงขลาด้วย
โดยเมนูขึ้นชื่อในวันนั้นที่ถือได้ว่ามีความอร่อยถึงรส สมกับเป็นสุดยอดอาหารปักษใต้ คือ แกงส้มปลากะพง พร้อมเมนูอื่นๆ ทั้ง กุ้งทอดซอสมะขาม ปลาริวกิวทอด ไก่กอและ และยำผักกูดกุ้งสด ซึ่งเมื่อได้ทานแล้วต้องยกนิ้วให้ทุกรายการ โดยเฉพาะเมนูที่พิเศษที่อยากให้ทุกคนได้ลองคือ น้ำพริกกะปิ ไข่ครอบ และสารพัดผักสด ผักลวก
สำหรับไข่ครอบ อาจารย์จาก มทร. บอกอย่างภูมิใจว่า “เป็นเมนูจากภูมิปัญญาการถนอมอาหารดั้งเดิมของครอบครัวชาวประมงพื้นบ้านแถบริมทะเลสาบสงขลา และทุกคนที่ได้มีโอกาสชิมฝีมือการปรุงจาก (เชฟอาจารย์ มทร.) ต่างก็บอกว่าอร่อยมากๆ ทุกคน”
เดิมไข่ครอบทำเพียงเพื่อเก็บไข่แดงที่เหลือมาจากการใช้ไข่ขาวย้อมด้ายเนื้ออวนหรือแหที่ใช้จับปลาของชาวประมงพื้นบ้านในชุมชนบ้านคูขุด อ.สทิงพระ จ.สงขลา โดยการนึ่งไข่แดงเพื่อเก็บไว้กินได้นานขึ้นและไม่เน่าเสีย แต่ปัจจุบันมีการทำรับประทานกันอย่างแพร่หลายทั้งในครัวเรือนและทำขาย
วิธีทำคือ นำไข่เป็ดมาล้างให้สะอาด แกะส่วนบนของเปลือกไข่เพียงเล็กน้อยให้สามารถเทไข่ออกจากเปลือกได้โดยไข่แดงไม่แตก หลังจากนั้นใช้มือแยกไข่แดงออกจากไข่ขาว แล้วนำไปใส่รวมไว้ในภาชนะที่ใส่น้ำสะอาดเตรียมไว้แล้ว จากนั้นเอามือช้อนไข่แดงที่แยกไว้ใส่ลงในเปลือกไข่เป็ดที่ตัดเปลือกส่วนบนออกประมาณ 3/4 ของฟอง แล้วนำเกลือป่นมาละลายน้ำ แต่ให้เหลือเกลือติดอยู่ ตักน้ำเกลือนั้นหยอดลงในเปลือกไข่โดยให้มีเกลือติดไปด้วย หมักทิ้งไว้ประมาณ 5-6 ชั่วโมง เพื่อให้เกลือป่นละลายเข้าไปในไข่แดงได้พอดี จากนั้นนำไปนึ่ง ใช้เวลาประมาณ 7 นาที เพื่อให้ผิวไข่แดงสุก แต่เนื้อในยังเป็นยางมะตูม จะได้เนื้อไข่ที่นุ่มลิ้น รสชาติอร่อย ไม่เค็มอย่างที่คิด เข้ากันดีกับน้ำพริกและสารพัดผักที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน
การมาเยือนสงขลาคราวนี้ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจสำหรับศูนย์ข่าวพลังงาน Energy News Center – ENC และกลุ่มสื่อมวลชน ที่ได้มีโอกาสทั้งเยี่ยมชมศูนย์เศรษฐพัฒน์ที่มีส่วนสำคัญในการสร้างบุคลากรให้แก่อุตสาหกรรมปิโตรเลียมมายาวนาน และยังได้ชิมอาหาร สด สะอาด อร่อย จากภาควิชาคหกรรมศาสตร์ มทร. หนึ่งในแหล่งผลิตเชฟคุณภาพสู่อุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งเชื่อว่าความร่วมมือของทั้งสอง “โรงเรียนสร้างคน” แห่งนี้ จะผลิดอกออกผล เป็นประโยชน์ต่อไปอย่างแน่นอน