EGCO ทุ่ม 3 หมื่นล้าน ปี 2567 สร้างโรงไฟฟ้าอีก 1 พันเมกะวัตต์

897
- Advertisment-

EGCO ทุ่มงบลงทุน 3 หมื่นล้านบาท ปี 2567 สร้างโรงไฟฟ้าเพิ่ม ตั้งเป้าผลิตไฟฟ้าให้ได้ปีละ 1 พันเมกะวัตต์ เน้นพลังงานทดแทน สอดคล้องแผน Net Zero ลดปัญหาโลกร้อน ระบุยอมรับห่วงโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Yunlin ในไต้หวันที่ล่าช้ามานาน เหตุสัญญาใหม่กำหนดติดตั้งกังหันลมให้ได้ 80 ต้น ภายในปี 2567 แต่มีเวลาติดตั้งแค่ 5-6 เดือนก่อนเข้าฤดูมรสุม

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จํากัด (มหาชน) หรือ EGCO เปิดเผยว่า  EGCO ตั้งเป้าจะผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นปีละ 1,000 เมกะวัตต์ ตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยยกเลิกการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานถ่านหิน มาเน้นที่การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ในปี ค.ศ. 2040 และเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ค.ศ. 2050

ทั้งนี้ EGCO ตั้งงบลงทุนในปี 2567 ไว้ทั้งสิ้น 30,000 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้น รวมถึงลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศอินโดนีเซีย เป็นต้น โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตตามโครงการที่เกิดขึ้นใหม่ แต่ขึ้นกับอัตราค่าเชื้อเพลิงเป็นหลักด้วย

- Advertisment -

อย่างไรก็ตามปัจจุบัน EGCO ยังมีความเป็นห่วง โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลม Yunlin ในไต้หวัน เนื่องจากเดิมเป็นโครงการที่กำหนดติดตั้งกังหันลมขนาดใหญ่ในทะเล บริเวณช่องแคบไต้หวัน-จีน จำนวน 80 ต้น กำลังการผลิตรวม 640 เมกะวัตต์ ให้เสร็จในปี 2564-2565 แต่เกิดปัญหาล่าช้าขึ้น ปัจจุบันติดตั้งไปแล้ว 33 ต้น กำลังผลิตไฟฟ้า 264 เมกะวัตต์  

ทั้งนี้ล่าสุดได้มีการเจรจาและทำสัญญากันใหม่ โดยหน่วยงานรัฐประเทศไต้หวันกับ EGCO ตกลงสัญญาจะติดตั้งกังหันลม 80 ต้น ภายในปี 2567 นี้ แต่การติดตั้งดังกล่าวสามารถดำเนินการได้เพียง 5-6 เดือน นับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2567 นี้ เนื่องจากเป็นช่วงที่ปลอดภัยจากฤดูมรสุมทางทะล และหากพ้นช่วงเวลาดังกล่าวแล้วจะไม่สามารถดำเนินการได้ อย่างไรก็ตาม  EGCO จะต้องพยายามเร่งดำเนินการให้เสร็จภายใน 5-6 เดือนดังกล่าวต่อไป

สำหรับนโยบายลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ของรัฐบาลที่ปรับลดทั้งค่าไฟฟ้าและค่าเชื้อเพลิงนั้น ที่ผ่านมายังไม่มีปัญหามากนัก เนื่องจากราคาค่าเชื้อเพลิงปรับลดลง และเชื่อว่ารัฐบาลมุ่งเน้นการดูแลค่าไฟฟ้าไม่ให้ปรับสูงเกินไป เพื่อช่วยจูงใจให้นักลงทุนยังคงลงทุนในประเทศไทยต่อไป

ส่วนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) นั้น EGCO ยังสนใจนำเข้า LNG เพื่อมาใช้กับโรงไฟฟ้าเอ็กโก โคเจนเนอเรชั่น แต่เนื่องจากปริมาณการนำเข้าคาดว่าจะไม่มาก ดังนั้น  EGCO พร้อมเจรจากับผู้ได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้จัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper) รายอื่นๆ เพื่อนำเข้า LNG ร่วมกันต่อไป  

Advertisment