BGRIM เดินหน้าโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 7 โครงการตามแผน พร้อมแล้วทั้งทุนและเทคโนโลยี

1360
- Advertisment-

BGRIM ประกาศความพร้อมเดินหน้าโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 7 โครงการตามแผน เผยมีความพร้อมทั้งด้านเงินทุนที่มีสถาบันการเงินหลายแห่งให้การสนับสนุนและสถานะการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ส่วนด้านเทคโนโลยี มีความร่วมมือกับ Siemens และ Toshiba ระบุ 5 โครงการที่จะทดแทนโรงไฟฟ้าที่ใกล้หมดอายุสัญญา จะ COD ได้ในปี 2565 ส่วนอีก 2 โครงการใหม่จะ COD ได้ถัดไปในปี 2566

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ได้ลงนามในหนังสือแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงแผนการสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าที่สัญญาจะหมดอายุลง (“SPP Replacement”) 5 โครงการ และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่จะสร้างใหม่ 2 โครงการ (“BGPR 1-2”) ว่า มีการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (“PPA”) ระยะยาวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และกับลูกค้าอุตสาหกรรม เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ โครงการทั้ง 7 โครงการ มีความพร้อมด้านเทคโนโลยี ด้วยความร่วมมือกับบริษัท Siemens และบริษัท Toshiba Plant Systems & Services Corporation (TPSC) และมีการเตรียมพร้อมด้านเงินทุนสำหรับพัฒนา ทั้ง 7 โครงการนี้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน โดยมีสถาบันการเงินชั้นนำหลายแห่งที่พร้อมสนับสนุนเงินลงทุน ควบคู่ไปกับฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ด้วยเงินสดในมือ 1.9 หมื่นล้านบาท รวมถึงอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน 1.1 เท่าตามงบการเงินรวมและ 0.5 เท่า ตามงบการเงินเฉพาะกิจการ ณ กลางปี 2563

- Advertisment -

ทั้งนี้ โครงการ SPP Replacement 5 โครงการดังกล่าว มีกำลังการผลิตรวม 700 เมกะวัตต์ มีกำหนดการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ปี 2565 เป็นการสร้างโรงไฟฟ้าเพื่อทดแทนโครงการ อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 1, โครงการ อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 2, โครงการ บี.กริม เพาเวอร์ แหลมฉบัง 1 และโครงการ บี.กริม เพาเวอร์ (เอไออี-เอ็มทีพี) จำนวน 2 โครงการ รวมเป็นกำลังการผลิตที่จะหมดอายุลง 564 เมกะวัตต์ โดยมีการเพิ่มจำนวนเมกะวัตต์ในส่วนของลูกค้าอุตสาหกรรมเป็นหลัก เพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าและไอน้ำที่มีเสถียรภาพในระดับสูงจากพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC  ซึ่งปัจจุบันมีการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับลูกค้าอุตสาหกรรมส่วนใหญ่แล้ว สำหรับในส่วนของการขายไฟฟ้าให้กับ กฟผ. นั้นจะมีปริมาณรวมลดลงจากเดิมสูงสุด 350 เมกะวัตต์ เป็นจำนวน 150 เมกะวัตต์

ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมอีก 2 โครงการ (BGPR 1-2) นั้น อยู่ระหว่างเดินหน้าก่อสร้างในนิคมอุตสาหกรรมเวิลด์ ฟู๊ด วัลเลย์ ไทยแลนด์ รวมกำลังการผลิต 280 เมกะวัตต์ และมี PPA กับ กฟผ. 90 เมกะวัตต์ต่อโครงการ มีกำหนดการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2566

Advertisment