บี.กริม เพาเวอร์ “BGRIM” เปิดโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 420 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนาม ที่นับว่ามีขนาดโครงการใหญ่ที่สุดในอาเซียน ช่วยเพิ่มสัดส่วนธุรกิจพลังงานทดแทนเป็น 30% จากเดิม 8% คาดสิ้นปี 2562 จะมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 2,896 เมกะวัตต์ และก้าวเข้าสู่เป้าหมายการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในมือทะลุ 5,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2565
วันนี้ 7 ก.ย.2562 บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ของไทยได้จัดให้มีพิธีเปิดโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินโครงการ DAU TIENG 1 และ DAU TIENG 2 (DT1& DT2) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 420 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนาม อย่างเป็นทางการ โดยมี นาย หว๋อ วัน เทื่อง Head of Propaganda and Training Commission, Member of Politburo นายเหงียน วัน บิง Head of Economic Commission, Member of Politburo และ พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา, อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และนางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM รวมถึงผู้บริหารหน่วยงานรัฐและเอกชนทั้งของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามและประเทศไทยเข้าร่วมในพิธี
นายฮาราลด์์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม กล่าวว่า บี.กริม เพาเวอร์ ‘BGRIM’ เป็นบริษัทในเครือที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าในไทยมานานกว่า 20 ปี รวมไปถึงการขยายธุรกิจไปสู่ระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง สำหรับสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามนั้นถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพการลงทุนสูง ด้วยการเติบโตของเศรษฐกิจขยายตัวกว่า 6-7% ต่อปี และมีการสนับสนุนด้านพลังงานทดแทนอย่างจริงจัง
โดยการเปิดโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ DAU TIENG 1 และ DAU TIENG 2 ที่เวียดนามซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียนนั้น จะเป็นก้าวสำคัญของการเป็นผู้นำพลังงานในระดับภูมิภาค ซึ่งจะนำไปสู่การขยายธุรกิจในระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ กล่าวว่า โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินโครงการ DAU TIENG 1 และ DAU TIENG 2 ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 420 เมกะวัตต์ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) จำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ Electricity of Vietnam (EVN) แล้วเมื่อวันที่ 3 และ 13 มิ.ย. 2562 ตามลำดับ ด้วยสัญญาการรับซื้อไฟฟ้าในอัตรา 9.35 เซ็นต์ดอลลาร์สหรัฐฯต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง สร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงเป็นระยะเวลา 20 ปี
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2562 บี.กริม เพาเวอร์ ‘BGRIM’ ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Phu Yen TTP ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 257 เมกะวัตต์ ทำให้ บี.กริม เพาเวอร์ มีกำลังการผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์รวมกว่า 677 เมกะวัตต์ สร้างรายได้ให้บริษัทแล้ว 181 ล้านบาท ในเดือนมิ.ย. 2562 ซึ่งส่งผลให้กำลังการผลิตที่เปิดดำเนินการแล้วของ บี.กริม เพาเวอร์ ‘BGRIM’ ณ ปัจจุบัน เติบโตกว่า 40% จากช่วงต้นปี 2562 โดยมีสัดส่วนกำลังการผลิตจากพลังงานทดแทนเพิ่มเป็น 30% จากเดิม 8%
พร้อมกันนี้ บี.กริม เพาเวอร์ ‘BGRIM’ อยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ขนาดกำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ ในประเทศไทย ซึ่งจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในช่วงเดือนธ.ค. 2562 โดยจะส่งผลให้ ณ สิ้นปี2562นี้จะมีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์รวมทั้งสิ้น 46 โครงการ โดยเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 17 โครงการ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 24 โครงการ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ 3 โครงการ โรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม 1 โครงการ และ โรงไฟฟ้าพลังงานดีเซล 1 โครงการ มีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 2,896 เมกะวัตต์ และส่งผลให้รายได้ปีนี้เติบโตตามเป้าหมาย 15-20%
อย่างไรก็ตาม บี.กริม เพาเวอร์ ‘BGRIM’ ยังอยู่ระหว่างพิจารณาขยายการลงทุนเพิ่มเติมในโครงการโรงไฟฟ้าในอีกหลายประเทศทั้งใน เวียดนาม เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ กัมพูชา รวมถึงระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายการเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืนไปสู่เป้าหมายการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 5,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2565