ACE จับมือจังหวัดกระบี่เปิดโรงไฟฟ้าขยะชุมชนขนาด 6 เมกะวัตต์ อายุสัญญา 25 ปี ซึ่งจะช่วยรองรับปัญหาขยะล้นเมืองที่เกิดจากนักท่องเที่ยวทั้งที่เป็นขยะตกค้างและขยะใหม่ ได้ประมาณวันละ 450 ตัน
โดยพิธีเปิดโรงไฟฟ้าขยะชุมชนขนาด 6 เมกะวัตต์ ที่ดำเนินการโดย บริษัท อัลไลแอนซ์ คลีน เพาเวอร์ จำกัด ที่เป็นบริษัทย่อยของ แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE มีขึ้นเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมี พันตำรวจโท หม่อมหลวง กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ และนางสาวจิรฐา ทรงเมตตา ประธานกรรมการบริหาร ของ ACE ร่วมในพิธี
นางสาวจิรฐา ทรงเมตตา ประธานกรรมการบริหาร ACE กล่าวว่า โรงไฟฟ้าขยะชุมชนดังกล่าว ได้เริ่ม COD จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แล้วตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยจะสร้างรายได้ให้ ACE ปีละประมาณ 220 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากรายได้การจำหน่ายไฟฟ้าและรายได้ค่ากำจัดขยะ ซึ่งจะรับรู้รายได้เต็มไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 1/2564 เป็นต้นไป
โดยโรงไฟฟ้าขยะชุมชนแห่งนี้ สามารถกำจัดขยะชุมชนที่มีความชื้นได้สูงถึง 80% ด้วยวิธีการเผาตรงระบบปิดแบบสูญญากาศโดยไม่จำเป็นต้องมีการคัดแยกและแปรรูปขยะให้เป็นเชื้อเพลิงก่อน และไม่มีการปล่อยของเสียใดๆ ออกสู่ธรรมชาติ (Zero Discharge) นอกจากนี้ระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศของโรงไฟฟ้ายังเชื่อมสัญญาณตรงไปยังกรมโรงงานอุตสาหกรรม สามารถมอนิเตอร์ได้แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง มีความปลอดภัยต่อชุมชนรอบข้างสูง
ด้าน นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ กล่าวว่า โรงไฟฟ้าขยะชุมชน ที่ดำเนินการโดยกลุ่มบริษัท ACE ภายใต้อายุสัญญา 25 ปี ตั้งอยู่ภายในบริเวณศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยของเทศบาลฯ ณ ตำบลไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ซึ่งจะช่วยบริหารกำจัดขยะทดแทนการฝังกลบในบ่อขยะแบบเดิมซึ่งเปิดใช้มากว่า 20 ปี ส่งผลให้มีขยะตกค้างรอกำจัดจำนวนมาก และเมื่อรวมกับขยะใหม่ที่แต่ละวันมีไม่น้อยกว่า 200 ตัน หากปล่อยไว้นานจะยิ่งกระทบต่อปัญหาเรื่องพื้นที่ฝังกลบมีไม่เพียงพอและส่งผลกระทบต่อสุขอนามัยของประชาชน นักท่องเที่ยว รวมถึงทำลายภูมิทัศน์อันสวยงามของจังหวัดกระบี่ โดยนวัตกรรมที่นำมาใช้ก็เป็นเทคโนโลยีการกำจัดขยะ ของACE ที่สามารถเผาขยะทุกชนิดได้พร้อมๆ กัน เช่น กระดาษ พลาสติก ยาง ผ้า เศษอาหารจากขยะเก่าและขยะใหม่ของเทศบาลเมืองกระบี่ รองรับการนำขยะมากำจัดได้สูงสุดวันละ 450 ตัน ซึ่งมาจากเทศบาลในพื้นที่กระบี่ 14 แห่ง อบต.48 แห่ง รวมกับขยะเก่าที่ฝังกลบในศูนย์ฯ แห่งนี้ด้วย
ในขณะที่ พันตำรวจโท หม่อมหลวง กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า กระบี่เป็นจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญอันดับ 4 ของประเทศ โดยในภาวะปกติจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไม่ต่ำกว่าปีละ 6 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 100,000 ล้านบาทต่อปี ขณะที่ในปี 2563 แม้ต้องเผชิญผลกระทบจากโควิด– 19 ก็ยังมียอดนักท่องเที่ยวกว่า 1.5 ล้านคน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 9 แสนคน นักท่องเที่ยวต่างชาติ 6 แสนคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 29,000 ล้านบาท แต่ก็ต้องแลกกับปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นเมื่อรวมกับประชากรในพื้นที่อีกกว่า 400,000 คน ส่งผลให้มีขยะตกค้างมหาศาลที่รอกำจัด เฉพาะขยะในเขตเทศบาลเมืองกระบี่ก็มีกว่า 800,000 ตัน นอกจากจะส่งผลกระทบเรื่องกลิ่นและสุขภาวะ ยังกระทบต่อทัศนวิสัย รวมถึงความประทับใจและความทรงจำของนักท่องเที่ยวด้วย
